CKP ใกล้จะเปิดข่าวดี อภิมหาโปรเจกต์ – “ช.การช่าง” อัดเงินกองทุนให้พร้อมลุย

HoonSmart.com>>ทำไม? บริษัท ช.การช่าง (CK) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ซีเค พาวเวอร์ (CKP) ถึงต้องรีบร้อนแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นหรือวอร์แรนต์ (CKP-W1) ทั้งหมด เพื่อเพิ่มเงินกองทุนให้บริษัทลูกรักถึง 3,565 ล้านบาท

ถือเป็นเรื่องผิดปกติ

เพราะกว่า CKP-W1 จะหมดอายุ มีเวลาแปลงเป็นหุ้นอีกนานถึง วันที่ 28 พ.ค. 2563

การแปลงวอร์แรนต์รอบนี้ คงไม่ใช่เหตุผล เพียงเพราะราคาหุ้นแปลงสภาพที่ 6 บาท ต่ำกว่าราคาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อยู่ที่ 6.85-7.15 บาท ในช่วงเปิดให้แปลงเป็นหุ้น วันที่ 21-27 มิ.ย. 2562

แม้ว่าการใช้สิทธิ ของ CK ครั้งนี้ จะได้รับผลตอบแทนคุ้มค่า ในเรื่องกำไรจากราคาหุ้น และเพิ่งปรับเงื่อนไขในการแปลงสภาพ จาก 1 ต่อ 1 เป็น 1 ต่อ 1.0007 หุ้น

เชื่อว่ากลุ่ม ช.การช่าง คิดจะลงทุนอะไร จะต้องได้รับผลประโยชน์มากกว่าหนึ่งเด้งเสมอไป…

เป้าหมายใหญ่ ในการใส่เงินก้อนโตครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมด้านเงินกองทุนให้กับ CKP ซึ่งใกล้จะจบดีล คว้าสัมปทานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดใหญ่ จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ขนาดกำลังการผลิตมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ (MW)

CKP มีเงินกองทุนเพิ่มขึ้น 3,565 ล้านบาท สามารถนำไปใช้เป็นฐาน “เงินต่อเงิน” ในการขอสินเชื่อจากธนาคารได้ประมาณ 3 เท่า หรือได้รับการสนับสนุนเงินลงทุนใน โครงการมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ ซีเค พาวเวอร์ เพิ่งประสบความสำเร็จในการขายหุ้นกู้ มูลค่า 4,000 ล้านบาท เมื่อกลางเดือน มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา โดยยังไม่รวมหุ้นกู้ของบริษัทไฟฟ้าน้ำงึม 2 อีก 6,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ช.การช่างยังได้งานรับเหมาก่อสร้างโครงการใหม่ สร้างรายได้โดยตรง และรับรู้กำไรจากการถือหุ้น CKP เพิ่มขึ้นจาก 7.37% เป็น 32.56%

ที่ผ่านมา  CKP ได้เปิดแผนธุรกิจให้นักวิเคราะห์และนักลงทุนทราบมาโดยตลอด เรื่องเป้าหมายในการการดำเนินงานของปี 2562 ว่าจะมีโครงการใหม่เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำ สปป.ลาว ขนาด 1,000-1,500 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ ขนาด 5-10 เมกะวัตต์

“สัมปทานโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว แห่งใหม่   CKP ได้แน่นอน  แต่จะได้เมื่อไรเท่านั้น หลังจากแสดงผลงานชิ้นโบว์แดง โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ ให้รัฐบาลสปป.ลาวเห็นถึงคุณภาพระดับสากล  และสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้เร็วกว่าแผนที่วางไว้  สร้างพลังงานสะอาดให้กับประเทศ รวมถึง สายสัมพันธ์ ที่เหนียวแน่น”

ถึงเวลานี้กล้าการันตีว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ 5,000 MW ในปี 2568  บริษัทจะบรรลุเป้าหมายอย่างแน่นอนและมีโอกาสที่จะวิ่งถึงหลักชัยได้ก่อนเวลาที่กำหนดไว้ เนื่องจากไม่ได้พึงพาเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าในสปป.ลาวเท่านั้น  ยังหาโอกาสจากโรงไฟฟ้าเมียนมา รวมถึงในประเทศไทย ทั้งโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม และพลังงานทดแทน

เห็นอย่างนี้แล้ว ราคาหุ้น CKP จะซื้อขายแถว 7 บาทอยู่อีกเหรอ!!!