HoonSmart.com>>คาดเฟดลดดอกเบี้ยไตรมาส 3 ธปท.ไม่ปิดโอกาสลงตาม หนุนหุ้นได้ประโยชน์ อสังหาฯ เช่าซื้อ หุ้นปันผล บริษัทหนี้สูง กู้เงินมาลงทุนกลุ่มขนส่งมวลชน-โรงไฟฟ้า ส่วนแบงก์เสียเปรียบ
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอลงหลายตัว ล่าสุดตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.02 แสนตำแหน่ง แต่คาดที่ 1.35 แสนตำแหน่ง มีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยลงในไตรมาส 3 หรือในสิ้นเดือนนี้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ไม่ปิดโอกาสในการปรับลดอดอกเบี้ยลงตาม
นักวิเคราะห์แนะนำหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยบล.ธนชาตระบุว่า ธปท.ส่งสัญญาณไม่ปิดโอกาสลดดอกเบี้ย มองเศรษฐกิจเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ ล่าสุดบอนด์ยีล 10 ปีไทยลดลงเหลือ 2.04% ขณะที่ของสหรัฐอยู่ที่ 1.953%
นักกลยุทธ์ธนชาตยังชอบกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำยาวนาน ได้แก่ KKP, TISCO, DIF, SAWAD
ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ผลดี ก็ต้องเลือกหุ้นที่มีมูลค่าน่าสนใจ พี/อีต่ำ 9.7เท่า และอัตราผลตอบแทนปันผลสูง 6.1% มีโอกาสปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาดระยะสั้น ชอบ LH มีพอร์ตธุรกิจที่กระจายตัวดี รายได้ค่าเช่า-ประจำ เกือบ 50% ปันผล 6.6% รวมถึง SPALI เติบโตยั่งยื่น มีแบ๊กล็อค 65% รองรับรายได้ปีนี้ แล้ว อัตรากำไรเร่งตัวขึ้น พี/อี 8 เท่า อัตราผลตอบแทนปันผล 5% และ QH แม้อสังหาไม่เด่น แต่มูลค่าสินทรัพย์สูง 5.12 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่ามีการเก็งกําไรเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย หุ้นที่ได้ประโยชน์คือ อสังหาฯ เช่าซื้อ และบริษัทที่กู้เงินมาซื้อกิจการหรือสินทรัพย์เพิ่ม เช่น MINT, GPSC, FPT, DIF, JASIF ส่วนหุ้นธนาคารพาณิชย์จะเสียประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลง
ภาระดอกเบี้ยลดลง ต้องแสวงหาหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง และกลุ่ม REITs, IFFs ทดแทนการได้ดอกเบี้ยต่ําลง
ส่วนบล.บัวหลวง แนะนำสะสมหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากธปท.ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยในไตรมาส 3 และมีความอดทนต่อแรงเสียดทานด้านเศรษฐกิจได้ดี แนะนำสินเชื่อบุคคล ได้แก่ MTC,SAWAD สินเชื่อรถยนต์ จำนำทะเบียน ที่ต้นทุนทางการเงินลดลง อาทิ TISCO, KKP, THANI, ECL และ TK
กลุ่มขนส่งมวลชน และโรงไฟฟ้า ต้นทุนในการลงทุนโครงการลดล อาทิ BTS, BCPG, BPP และ WHAUP รวมถึงบริษัทที่มีหนี้ต่อทุนสูงช่วงนี้ MINT, TRUE, THAI, ASAP
นอกจากนี้ประธานธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความสรุปว่าสหรัฐจะปล่อยให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า เมื่อเทียบกับยูโร และจีน คาดว่าเงินบาทมีแนวโน้มจะทรงตัวในระดับแข็งทำให้หุ้นที่มีเงินสกุลต่างประเทศมีโอกาสบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และกลุ่มนำเข้าจะบริหารส่วนต่างกำไรได้ดีในภาวะเงินบาทแข็ง