HoonSmart.com>> “เอพี (ไทยแลนด์)” เปิดผลงานครึ่งปีแรกกวาดยอดขาย 20,800 ล้านบาท เติบโตกว่า 20% จากงวดปีก่อน สวนกระแสภาพรวมตลาดชะลอตัว พร้อมบุกตลาดทั้งแนวราบและแนวสูงครึ่งปีหลัง ส่ง 23 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 27,265 ล้านบาท มั่นใจหนุนยอดขายทั้งปีตามเป้า 41,800 ล้านบาท โตกว่า 20%
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกภายใต้กลยุทธ์การรบยาวเปิดตัวทุกแบรนด์ในเครือ พัฒนาโปรดักซ์ตอบโจทย์เฉพาะเจาะจงแต่ละเซ็กเมนต์ ส่งผลให้บริษัทมียอดขายรวม 20,800 ล้านบาท (ณ 30 มิถุนายน 62) แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียม มูลค่า 9,500 ล้านบาท และแนวราบมูลค่า 11,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 20% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 17,265 ล้านบาท สวนกระแสภาพรวมตลาดที่ค่อนข้างชะลอตัวในครึ่งปีแรก
“แม้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ ครึ่งปีแรกจะมีหลายปัจจัยทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หรือมาตรการควบคุมภายในประเทศที่กระทบบรรยากาศการซื้อขาย แต่บริษัทฯ เชื่อว่าดีมานด์ลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยยังมีอยู่ แต่เป็นดีมานด์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ‘โลเคชั่น’ ‘แบบบ้าน’ และ ‘แพ็คเกจราคา’ ต้องใช่ถึงตัดสินใจซื้อ ดังนั้น ความท้าทายของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในวันนี้ คือ การพัฒนาทั้งรูปแบบและแพ็คเกจราคา บนพื้นฐานความต้องการจริงและความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้า”นายวิทการ กล่าว
อย่างไรก็ตามในครึ่งปีแรกบริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 30,785 ล้านบาท โดยยอดขาย 20,800 ล้านบาทนั้น กว่า 54% เป็นยอดขายจากสินค้าแนวราบ โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยว THE CITY ราชพฤกษ์ – สวนผัก และ PLENO ดอนเมือง – สรงประภา ที่ได้รับการตอบรับเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ในช่วงพรีเซล ส่วนคอนโดมิเนียม THE ADDRESS สยาม-ราชเทวี RHYTHM เอกมัย เอสเตท และ ASPIRE อโศก – รัชดา ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าเรียวดีมานด์และถือเป็นคีย์หลักที่ช่วยดันยอดขายในครึ่งปีแรกเติบโตอย่างโดดเด่น
นายวิทการ กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกรายต่างเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด ประเด็นที่น่าจับตามองและเชื่อว่าจะเป็นปัจจับบวกที่จะเข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นและบรรยากาศการซื้อขายอสังหาฯ ในครึ่งปีหลัง อาทิ ความชัดเจนทางการเมือง ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการดึงความเชื่อมั่นจากลูกค้าทั้งเรียลดีมานด์และนักลงทุน ประกอบกับแผนการจัดตั้งรัฐบาล และการฟอร์มทีมดูแลด้านนโยบายเศรษฐกิจของประเทศอย่างชัดเจน โดยคาดการณ์อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ที่จะเข้ามากระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ เปิดตัว 23 โครงการใหม่ มูลค่า 27,265 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮม 12 โครงการ มูลค่า 9,250 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 10 โครงการ มูลค่า 11,715 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 6,300 ล้านบาท โดยไฮไลท์ครึ่งปีหลังบริษัทฯมุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ของการพัฒนาที่อยู่อาศัย พร้อมบุกตลาดทั้งแนวราบและแนวสูง
“ไฮไลท์แรก เตรียมเปิดตัวสินค้าแบรนด์ใหม่เติมเต็มพอร์ตบ้านแนวราบภายใต้ชื่อ THE SONNE ศรีนคริทร์-บางนา มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ครั้งแรกของการเชื่อมโยงนวัตกรรมสเปซและความปลอดภัยในโลกอนาคตสู่การอยู่อาศัยจริง พร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการ ในช่วงเดือนกันยายน และในส่วนของคอนโดมิเนียม เตรียมเปิดตัว LIFE SATHORN SIERRA (โครงการร่วมทุน) มูลค่าโครงการ 6,300 ล้านบาท ต้นแบบการพัฒนาโครงการแนวสูงควบคู่กับสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนเต็มรูปแบบแห่งแรกของไทย พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้”นายวิทการ กล่าว
ณ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 57,310 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ มูลค่า 10,130 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมรวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 47,180 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดเอพี 5,650 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 2,604 ล้านบาท และคอนโดร่วมทุน 41,530 ล้านบาท รับรู้ในปีนี้ประมาณ 5,505 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566
ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (Ongoing Projects) กว่า 100 โครงการรอบกรุงเทพฯ มูลค่าคงเหลือขายรวมกว่า 64,293 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายรวมได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 41,800 ล้านบาท อย่างแน่นอน