HoonSmart.com>>‘PRO’ ผู้นำกำจัดขยะอุตสาหกรรม มั่นใจเปิดซื้อขายชั่วคราว 1 ก.ค.นี้ ผู้ถือหุ้นเดิมกอดหุ้นแน่น มั่นใจฝีมือทีมผู้บริหารใหม่ หลังผลักดันธุรกิจดี กำไรเติบโต 3 ปีซ้อน
นางสาววิไลลักษณ์ สกุลภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเฟสชันแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) หรือ ‘PRO ’ เปิดเผยว่า หลังจากเข้ามาถือหุ้นใหญ่ และบริหารงาน ร่วม 5 ปี ได้ปรับปรุงธุรกิจแข็งแรง ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ปี 2560 มีรายได้รวม 266 ล้านบาท กำไรสุทธิ 20 ล้านบาท ปี 2561 มี่รายได้ 277 ล้านบาท กำไรสุทธิ 33 ล้านบาท เติบโต 65 % จากปี 2560
สำหรับไตรมาส 1/ 2562 มีรายได้รวม 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 54 ล้านบาท ช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 0.45 ล้านบาท ซึ่งด้วยผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง มีแผนยื่นกลับมาซื้อขายปกติในตลาดหลักทรัพย์ภายในเดือน มี.ค.ปี 2563
“จุดเด่นของ PRO เป็นผู้ให้บริการบำบัดของเสียอุตสาหกรรม ที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย มีพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ 918 ไร่ ซึ่งใช้งานเพียง 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น PRO จึงมีศักยภาพรองรับกากของเสียให้บริการได้อีกไม่ต่ำกว่า 30 ปี ”
นอกจากนี้ ยังมีสถานะการเงินที่เข้มแกร่ง มีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นต่อเนื่อง ไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย บริษัทยังมีธุรกิจ หลอมอลูมิเนียมสำเร็จรูป โดยบริษัทย่อยคือ บริษัท เจทีเอส อลูมิเนียม แอนด์ เมทเทิล ซึ่งธุรกิจนี้มีอัตรากำไรที่ดีและมีอนาคตที่จะเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าโตปีนี้ 300 ล้านบาท และจะสูงขึ้นในอนาคต
นายพลพิพัฒน์ ศรีสุวรรณ กรรมการบริหาร ‘PRO’ กล่าวว่า ธุรกิจหลักของ PRO คือ 1. การกำจัดกากอุตสาหกรรม มี ศูนย์บำบัดกากอุตสาหกรรม จังหวัดสระแก้ว พื้นที่ 918 ไร่ กำลังการผลิตการกำจัดกากอุตสาหกรรมแบบที่เป็นอันตราย 82,500 ตันต่อปี และมีกำลังการผลิตการกำจัดกากอุตสาหกรรมแบบที่ไม่เป็นอันตราย 330,000 ตันต่อปี 2. การนำของเสียมารีไซเคิล ทำเชื้อเพลิงผสม สำหรับเตาเผาโรงงานปูนซีเมนต์ 3. ระบบบำบัดน้ำเสียที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย จากหลุมฝังกลบและน้ำเสียจากกิจกรรมต่างๆในโรงงาน ซึ่งมีความสามารถในการบำบัดสูงสุด 70 – 125 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
บริษัทมีแผนพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ โดยก่อสร้างอาคารห้องปฎิบัติการแห่งใหม่ เพื่อรองรับการวิเคราะห์กากอันตราย ซึ่งจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และมีแผนในการก่อสร้างโรงงานทำปุ๋ย และโรงงานทำอิฐบล็อกเพื่อนำกากอุตสาหกรรมบางชนิดให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก
“นโยบาย EEC ของรัฐบาลที่ส่งเสริมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ EEC กว่า 20,000 โรงงาน ในเขตจังหวัด ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สระแก้ว และ ปราจีนบุรี ทำให้บริษัทมีโอกาสได้งานเพิ่มมากขึ้น และมีแผนที่จะขยายโรงงานรับซื้อขยะมีพิษทั่วประเทศ นอกจากนี้ เงินลงทุนทางด้านเทคโนโลยี ที่ตั้งไว้ราว 80 ล้านบาท ที่จะนำมาสร้างห้องแล็บ และระบบไฟฟ้า ปรับปรุงโรงงาน นั้นได้มาจากการเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้น และกำไรการขาย” ผู้บริหาร กล่าว