ดาวโจนส์ปิดบวก 200 จุด คาดเฟดลดอกเบี้ยเดือนหน้า

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 249.17 จุด แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน ขานรับเฟดลดดอกเบี้ยเดือนหน้า หนุน ดัชนี S&P 500 ทำนิวไฮ ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 20 มิถุนายน 2562 ที่ 26,753.17 จุด เพิ่มขึ้น 249.17 จุด หรือ 0.94% ด้วยการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงาน หลังนักลงทุนขานรับความน่าจะเป็นที่ธนาคารกลาง(เฟด)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นไปที่ระดับสูงสุดใหม่

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,954.18 จุด เพิ่มขึ้น 27.72 จุด,+0.95%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,051.34 จุด เพิ่มขึ้น 64.02 จุด,+0.80%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาต่ำกว่า 2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2016

CME FedWatch เครื่องมือชี้ความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยของเฟด ขณะนี้อยู่ที่ 100% บ่งชี้ว่ามีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30-31 กรกฎาคม

นักวิเคราะห์จากยูบีเอสประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.50% ในปีนี้จากเดิมที่คาดว่าจะไม่มีการลดดอกเบี้ย

นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการส่งสัญญานการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางอื่นทั่วโลก ทั้งธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางยุโรป โดยในการประชุมเมื่อวานนี้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.75% พร้อมเตือนว่าความไม่แน่นอนของการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปและความขัดแย้งทางการค้ามีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ

ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่นได้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ -0.1% และให้คำมั่นว่าจะพยุงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ 0% และยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลในจำนวน 80 ล้านล้านเยนหรือ 743 พันล้านดอลลาร์ต่อปี

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิลเพิ่มขึ้น 1.7% หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นมาราธอนออยล์เพิ่มขึ้น 4.6% หุ้นฮัลลิเบอร์ตันเพิ่มขึ้น 4.8%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 1.4% โดยหุ้นออราเคิลเพิ่มขึ้นมากกว่า 8% จากผลการดำเนินดีกว่าคาด หุ้นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น 1.1%

หุ้นเจนเนอรัลอิเลกทริกเพิ่มขึ้น 2.8% ส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.6%

กระทรวงแรงงานเผยการยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ก่อนลดลง 6,000 รายมาที่ 216,000 ราย

ธนาคารกลางสาขาฟิลาเดลเฟีย เผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิดแอตแลนติกเดือนมิถุนายน ลดลงมาที่ 0.3 จุด หลังที่ปรับตัวขึ้นไปที่ 16.6 จุดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรอบ 4 เดือน

การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาสแรกลดลง 9.4% มีจำนวน 130.4 พันล้านดอลลาร์ จาก 143.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสุดท้ายปีก่อน

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก รับการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.75% ของธนาคารกลางอังกฤษพร้อมกับปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจลงมาที่ 0% ในไตรมาสสอง ซึ่งเป็นผลจากความตึงเครียดทางการค้าและความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นที่จะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตดลง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,424.44 จุด เพิ่มขึ้น 20.90 จุด,+0.28%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 386.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.39 จุด,+0.36%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,535.57 จุด เพิ่มขึ้น 17.13 จุด,+0.31%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,355.39 จุด เพิ่มขึ้น 46.86 จุด,+0.38%

หุ้นดอยช์แบงก์ลดลง 2.7% จากรายงานข่าวว่าเอฟบีไอจะสืบสวนความเป็นไปได้ของการฟอกเงิน

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 2.89 ดอลลาร์หรือ 5.4%ปิดที่ 56.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 2.63 ดอลลาร์หรือ 4.3%ปิดที่ 64.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล