HoonSmart.com>>บล.โนมูระ พัฒนสิน-กรุงศรี มองหุ้นวันนี้บวก แนวต้าน 1,710 จุด หลังเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด ค่าเงินดอลลาร์อ่อนหนุนเงินไหลเข้าเอเชียและไทย
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน คาดตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น แนวต้าน 1,711 / 1,720 จุด แนวรับ 1,695 / 1,688 จุด หลัง FED มีมติคงดอกเบี้ย ขณะที่ Dot Plots แม้ FED ส่วนใหญ่ (8 ท่าน) ให้น้ำหนักคงอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ 7 ท่านมองปรับลดดอกเบี้ยถึง 2 ครั้ง
ส่วนปี 2563 มองลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง สะท้อนมุมมอง Dovish อย่างมีนัย กดดัน US Bond Yield 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่า 2.0% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี และกดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงหนุน Inflows ในเอเชียและไทยต่อเนื่อง หนุน SET ขึ้นต่อได้
สำหรับการลงทุนวันนี้แนะ Theme: “Domestic Play” AOT, TASCO, ZEN
ด้านบล.กรุงศรี มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้เป็นบวกคาด SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,710 – 1,715 จุด โดยภาวะตลาดได้ sentiment เชิงบวก Fed ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในช่วงครึ่งปีหลัง (ตลาดคาดปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ค. และก.ย. หรือธ.ค.อีก 1 ครั้ง) จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวรวมถึงคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง
ประกอบกับความคาดหวังความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในการประชุม G20 ช่วงสัปดาห์หน้า 28 – 29 มิ.ย. ซึ่งหนุนให้ราคาน้ำมันดิบเช้านี้ดีดตัวขึ้นเหนือ 54 US/Barrel รวมถึงเป็นบวกต่อทิศทาง Fund Flow ต่างชาติให้ไหลเข้าลงทุนต่อเนื่องซึ่งเป็นบวกต่อภาวะตลาดโดยรวม
ทั้งนี้ Fed คงดอกเบี้ยที่ 2.5% ตามคาด แต่จำนวนคณะกรรมการที่อยากให้ลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยตลาดคาดว่ามีความน่าจะเป็น 100% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเดือน ก.ค. Fed มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ตามที่เราและตลาดคาดไว้ แต่จำนวนคณะกรรมการที่ต้องการให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นเป็น 8 คน (คณะกรรมการ 17 คน มี 9 คนอยากให้คงดอกเบี้ย และ 8 คนอยากให้ลดดอกเบี้ย) บ่งชี้ถึงความน่าจะเป็นที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังมีมากขึ้น
สอดคล้องกับการคาดการณ์ของ CME Group ซึ่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์อัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าหรือ Fed watch ระบุว่ามีความเป็นไปได้ 100% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ก.ค. และมีความน่าจะเป็น 85% และ 78% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.และ ธ.ค. ตามลำดับ จากการส่งสัญญาณดังกล่าวกดดันให้ค่าเงิน US (Dollar index อ่อนค่าสู่ระดับ 97 vs 97.6)
ขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นเป็น 31 บาทต่อดอลลาร์ เป็นบวกต่อทิศทาง Fund flow ต่างชาติจะยังไหลเข้ากลุ่มตลาดเกิดใหม่และตลาดหุ้นไทยเพิ่มมากขึ้น เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Big Cap ทั้งพลังงาน สื่อสาร ธนาคารและค้าปลีก
