น่าซื้อ! AIRA คาดปี 63 พลิกมีกำไร 9 ธุรกิจโต ส่ง 2 บริษัทเข้าตลาดหุ้น

HoonSmart.com>> น่าออมหุ้น”ไอร่า แคปปิตอล” 9 ธุรกิจให้บริการครบวงจร โตทุกภาวะเศรษฐกิจ ผ่านช่วงการลงทุน ถึงเวลาเก็บเกี่ยวรายได้ ปี 63 บริษัทเริ่มมีกำไร ส่ง ไอร่า ลิสซิ่ง เข้า mai ส่วน ไอร่า แอนด์ ไอฟุล อาจจะเข้า SET ปี 64   เดินหน้าลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน 

นางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) เปิดเผยว่า บริษัทเป็นโฮลดิ้ง ลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ 9 ประเภท รวมเป็น One stop service สำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร หรือมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น บริษัทยังคงสามารถสร้างรายได้ปีละ 800 ล้านบาท ผ่านช่วงการลงทุนมาแล้ว ถึงเวลาเก็บเกี่ยวรายได้ คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้ขยายธุรกิจและบริหารความเสี่ยง ธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด หรือ Economies of acale

แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ ยังคงขาดทุนอีกเล็กน้อย จากปีก่อนขาดทุน 140 ล้านบาท โดยจะเริ่มมีกำไรในปี 2563 พร้อมนำบริษัทไอร่า ลิสซิ่ง เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ส่วนในปี 2564 จะนำบริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล เข้าจดทะเบียนด้วย แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือ mai บริษัทมีทุนจดทะเบียนมากถึง 4,000 ล้านบาท

“AIRA น่าซื้อสำหรับการออมหุ้น บริษัทมุ่งทำธุรกิจระยะยาว งบเดี่ยวของบริษัทไม่เคยขาดทุนเลย ส่วนงบการเงินรวมมีแนวโน้มดีขึ้นมาก รายได้หลักมาจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ส่วนธุรกิจอื่นเติบโต ควบคุมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ผ่านมาต้องรับรู้ผลขาดทุนจาก ไอร่า แอนด์ ไอฟุล ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้ ชื่อ A Money ที่มีขนาดเล็กและยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน ในปีหน้าจะเข้าสู่สมดุล เริ่มมีกำไรมากขึ้น “นางนลินีกล่าว

นอกจากนี้บริษัทไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ยังมีความสามารถในการกู้เงินอยู่ สำหรับการลงทุนต่างๆ ที่ผ่านมา  บริษัท ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้  เริ่มลงทุนในบริษัท แอสไพเรชั่น วัน ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารสำนักงานบริเวณสี่แยกราชเทวี มูลค่า 2,500 ล้านบาท สัญญาเช่าที่ดิน 30 ปี และต่ออายุ 30 ปี บริษัทยังเตรียมพร้อมลงทุนเพิ่มอีก 2 โครงการ ที่เป็นอาคารสำนักงานในเขต CBD ของกรุงเทพใกล้สถานีรถไฟฟ้า คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ เมื่อสร้างเสร็จและมีรายได้ค่าเช่า จะขายทรัพย์สินทั้ง 3 โครงการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท คาดอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ประมาณ 9-10%ต่อปี ภายใต้สมมุติฐานอัตราการเช่า 70% ในปีหน้า อัตราค่าเช่า 950 บาทต่อตารางเมตร เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจอื่นเพิ่มเติม เช่น พลังงานและโลจิกติกส์

ส่วนธุรกิจแฟคตอริ่งและลิสซิ่ง  มีการออกบริการใหม่ที่มีส่วนต่างดอกเบี้ยมากขึ้น ส่วนธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินก็ยังมีการเติบโต  นักลงทุนต่างประเทศ ให้ความสนใจเข้ามาลงทุน รวมถึงซื้อทรัพย์สินในประเทศไทย  ธุรกิจรับแลกเงินก็จะขยายสาขา 2-3 แห่งในปีนี้  ให้บริการลูกค้ารายย่อยทั่วไปและรับซื้อเงินตราต่างประเทศต่อจากร้านรับแลกเงินที่ไม่ใช่ลูกธนาคาร