หุ้นทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)กระชากขึ้นปลายตลาด จากราคาติดลบขึ้นไปปิดที่ระดับ 7.70 บาท บวก 0.15 บาท เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 ซึ่วเป็นวันเดียวกับที่บริษัทแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2561 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 387 ล้านบาท จากที่ขาดทุนถึง 1,152 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท (ร่วม) ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า รายได้จากทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตของกลุ่มที่ยังคงเติบโตเหนือกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม นอกจากศักยภาพโครงข่าย 4G และไฟเบอร์บรอดแบนด์ของกลุ่มทรูที่ครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว กลุ่มทรู ยังมุ่งพัฒนาระบบนิเวศที่ครบวงจรและครอบคลุมทั่วประเทศสำหรับการให้บริการ Internet of Things (IoT) และเข้าร่วมโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำ Southeast Asia – Japan 2 consortium ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบสื่อสารระหว่างประเทศทั้งสำหรับกลุ่มทรูและประเทศไทย รองรับการใช้แบนด์วิธขนาดใหญ่ อาทิ การใช้งานวิดีโอสตรีมมิ่ง ปัญญาประดิษฐ์ ระบบคลาวด์ การวิเคราะห์ข้อมูล (analytics) หุ่นยนต์ และ IoT
ด้านนายกิตติณัฐ ทีคะวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท (ร่วม) ทรูฯ กล่าวว่า ทรูมูฟ เอช ยังคงขยายฐานลูกค้าได้อย่างแข็งแกร่ง มีฐานลูกค้ารวม 27.63 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.12 แสนราย เป็นลูกค้าระบบเติมเงิน 20.56 ล้านราย และลูกค้าระบบรายเดือน 7.07 ล้านราย ด้วยการใช้งานดาต้าและจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ทรูมูฟ เอช เพิ่มขึ้น 10% เป็น 1.8 หมื่นล้านบาท
ณ สิ้นไตรมาสแรก ส่วนแบ่งตลาดรายได้และฐานลูกค้าของทรูมูฟ เอช เพิ่มขึ้นเป็น 27.6% และ 30.9% ตามลำดับ
ส่วนรายได้บรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตของทรูออนไลน์โต 15.2% จากไตรมาสแรกปีก่อนหน้า เป็น 6.3 พันล้านบาท มีฐานลูกค้ารวม 3.3 ล้านราย เพิ่มขึ้นสุทธิ 1.15 แสนราย รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) เพิ่มเป็น 618 บาท ส่วนทรูวิชั่นส์ มีรายได้เพิ่ม 4% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็น 3,100 ล้านบาท มีฐานลูกค้ารวม 4 ล้านราย