KTC บุก 3 สินเชื่อใหม่ ไตรมาส 3 โรดโชว์ตปท.ตอบรับดี สนใจลงหุ้นเพิ่ม

HoonSmart.com>>KTC ได้ฤกษ์คลอด 3 สินเชื่อใหม่ “นาโน-ฟิโก-ทะเบียนรถ” ไตรมาส 3 นี้  โรดโชว์สหรัฐนำเสนอแผนธุรกิจสร้างการเติบโต ได้รับการตอบรับที่ดีมาก สนใจลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้น  ปลายเดือนนี้ไปพบนักลงทุนที่ฮ่องกงและต้นเดือนก.ค.ไปญี่ปุ่น  

 

นายชุติเดช  ชยุติ  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส – คอร์ปอเรท ไฟแนนซ์  บริษัท บัตรกรุงไทย ( KTC)  ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับ นายพรเลิศ เบญจกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วินเพอร์ฟอร์มานซ์  ผู้ให้บริการติดตามหนี้ เปิดเวทีเสวนาปันความรู้  KTC FIT Talks 5:  จับเข่าคุย เล่าความเสี่ยงหนี้นอกระบบ ณ ห้องประชุมใหญ่ KTC เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา

นายชุติเดช กล่าวว่า เคทีซี  เตรียมรุกขยาย 3 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ นาโนไฟแนนซ์ พิโกไฟแนนซ์ และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ภายในไตรมาส 3 นี้  เปิดให้บริการปล่อยสินเชื่อได้  ส่วนโมเดลธุรกิจจะเป็นอย่างไร หรือจะเติบโตมากน้อยแค่นั้นขอประเมินผลหลังจากดำเนินงานไประยะหนึ่งก่อน แต่เชื่อว่าตลาดที่ใหญ่มาก หากทำสำเร็จจะสร้างกำไรที่ดีให้กับบริษัท

“เรานำข้อมูลนี้ไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา กองทุนต่างประเทศตื่นเต้นมาก  และแสดงความสนใจหุ้น KTC หลายคนถามถึงผลตอบแทนที่จะได้รับ เราชี้แจงว่าขอเวลาทำจริงๆระยะหนึ่งก่อนถึงจะทราบผลสำเร็จ เชื่อว่าดอกเบี้ยที่คิดได้สูงสุด 36% จะสร้างกำไรได้  ส่วนแผนโรดโชว์ต่อไป ที่ฮ่องกง ปลายเดือนมิ.ย.นี้ และญี่ปุ่นไปเดือนหน้า คาดว่าได้รับผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน แต่จะเข้ามาลงทุนในหุ้น KTC เพิ่มขึ้นหรือไม่  เชื่อว่าอยู่ที่ราคาหุ้นและจังหวะเวลา  ปัจจุบันต่างชาติถือหุ้นของเราลดลงจากที่เคยมากถึง 10% เหลือ 4% เศษ “นายชุติเดชกล่าว

ผู้บริหาร KTC กล่าวว่า การขยายธุรกิจใหม่ของบริษัท เพื่อตั้งใจดูแลคนที่ไม่ได้รับการดูแลจากสถาบันการเงินหรือขาดโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ จึงต้องหันไปพึ่งเจ้าหนี้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยสูงเป็นรายวันหรือรายเดือน หากลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ เจ้าหนี้จะใช้วิธีการตามทวงที่รุนแรง ต่างจาก “หนี้ในระบบ” จากการปล่อยสินเชื่อของผู้ประกอบการหรือนิติบุคคล ด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้ ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ขอสินเชื่อ

ขณะที่ภาครัฐ ตระหนักความเสี่ยงหนี้นอกระบบ ได้ออกสินเชื่อรายย่อย “นานาไฟแนนซ์ ”  เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อย  ที่ไม่มีเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้อย่างชัดเจน และไม่มีสินทรัพย์เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน  วงเงินสินเชื่อสูงสุดรายละไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมไม่เกิน  36% ต่อปี

ณ สิ้นเดือนมี.ค.2562  มีผู้ประกอบการที่ปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์  33 ราย จำนวน 1.91 ล้านบัญชี  ยอดสินเชื่อคงค้าง 30,669 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด หรือ พิโกไฟแนนซ์ (Pico Finance) เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ให้กับบุคคลธรรมดา กู้ยืมไปใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ชำระค่าเทอม ค่ารักษาพยาบาล ใช้คืนเงินกู้นอกระบบ หรือนำไปลงทุนในกิจการเล็ก ๆ ผู้ขอสินเชื่อจะมีทรัพย์สินหรือไม่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกันก็ได้ แต่ต้องมีทะเบียนบ้านหรือมีที่อยู่อาศัยปัจจุบัน หรือทำงานในจังหวัดที่สำนักงานใหญ่ของผู้ให้กู้ตั้งอยู่ กำหนดวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาท/ราย ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียม 36 % ต่อปี

อย่างไรก็ตาม สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิต ยังมีสัดส่วนที่ น้อยมาก เมื่อเทียบกับปริมาณหนี้ที่เกิดจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”

นายพรเลิศ กล่าวว่า  ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจริง ๆ มาจากพฤติกรรมการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว ติดวัตถุนิยม มีพฤติกรรมหมุนหนี้ คือ กู้ยืมเงินจากแหล่งเงินกู้ที่หนึ่ง ไปชำระคืนให้แหล่งเงินกู้เดิม สุดท้ายอาจมาจากความยากจนจริง ๆ ไม่มีงานทำ ตกงาน จึงไม่มีเงินเพียงพอในการชำระหนี้

สำหรับผู้ที่มาขอสินเชื่อและเริ่มมีภาระหนี้เกิดขึ้น และถูกติดตามหนี้ สิ่งแรกคือ อย่าเครียดกับการเป็นหนี้ ต้องหยุดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หยุดความอยากได้ ไม่สร้างหนี้เพิ่มเติม ใช้ของเดิมที่มีอยู่ ลดวงเงิน หรือยกเลิกสินเชื่อที่มีอยู่ คงเหลือไว้เพียงสินเชื่อที่จำเป็นและให้สิทธิประโยชน์แก่ตนเอง

ต่อมาชำระหนี้ให้ตรงเวลาเพื่อรักษาประวัติด้านการเงิน หารายได้เพิ่ม อย่าไปกังวลเรื่องหนี้ มองที่เงินที่จะเพิ่มขึ้นจะได้มีความสุข หนี้เป็นปัญหาที่แก้ไขได้แต่ต้องมีการวางแผน เช่น การหาเงินมาปิดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง ๆ การรีไฟแนนซ์ พูดคุยกับเจ้าหนี้ขอประนอมหนี้กับสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งแต่ละแห่งจะมีแนวทางที่ต่างกันไป