บล.คิงส์ฟอร์ด -โกลเบล็ก ชี้สงครามการค้า กดหุ้นไทย แนะเก็งกำไรโหวตตั้งนายก ฯ

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มอง SET INDEX มิ.ย.ผันผวนขาลง ให้กรอบ 1,580-1,660 จุด กังวลส่งออกส่อติดลบฉุดศก.ชะลอ-สงครามการค้าสหรัฐ-จีนยืดเยื้อ แนะซื้อหุ้นใหญ่ BBL, CK, STEC, UNIQ, AMATA, WHA รับอานิสงส์รัฐบาลใหม่ ด้านบล.โกลเบล็ก แนะเก็งกำไรโหวตตั้งนายก ฯ

นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือนมิ.ย.2562 คาดว่า ดัชนีหุ้นไทย ( SET) จะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,580-1,600 จุด แนวต้าน 1,660 จุด

เนื่องจากถูกกดดันจากภาวะสงครามการค้าสหรัฐ – จีนที่กลับมาขึ้นภาษีต่อกัน ขณะที่สหรัฐเตรียมกดดันจีนเพิ่ม โดยจะแบนสินค้าเทคโนโลยีจีน เช่น หัวเว่ย ช่วงกลางส.ค.นี้ จึงต้องจับตาการประชุม G-20 ปลายเดือน มิ.ย.นี้ว่า จะมีการหารือยุติข้อพิพาทการค้าหรือไม่

ส่วนปัจจัยในประเทศอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ( GDP) ไทยไตรมาส 1/62 ขยายตัวที่ระดับ 2.80% ส่งออกครึ่งปีแรกมีแนวโน้มติดลบ ส่งผลให้ทั้งปี GDP ไทยอาจขยายตัวต่ำกว่า 3.5% รวมทั้งปัจจัยทางการเมือง ยังคาดหวังจะได้นายกฯ ใหม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อ BBL, CK, STEC, UNIQ, AMATA, WHA ที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนหากได้รัฐบาลใหม่ และ CPALL, CPF, ADVANC, BGRIM ซึ่งเป็น Domestic Play และ Defensive Stock เพื่อลดความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศ

ด้านน.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ( GBS ) กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยเดินหน้า ขานรับกระทรวงพาณิชย์ รายงานตัวเลขดัชนี CPI ในเดือน พ.ค. ขยายตัว 1.15% และ CORE CPI ขยายตัว 0.54% บ่งชี้อัตราเงินเฟ้อไม่ร้อนแรงสนับสนุนคาดการณ์กนง.ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการมีรัฐบาลใหม่ แนะจับตาวันที่ 5 มิ.ย. การประชุมรัฐสภา ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี

ส่วนปัจจัยลบที่มีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง มาจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐส่อแววอ่อนแอ หลังมีรายงานว่าในเดือนพ.ค. ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐลดลงสู่ระดับ
50.5 ต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี ประกอบกับดัชนีภาคการผลิตลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง บ่งชี้ถึงแนวโน้มการขยายตัวของภาคการผลิตไม่มากนัก โดยคาดว่าสงครามการค้ามีแนวโน้มยืดเยื้อ และบานปลาย

นักวิเคราะห์เจพีมอร์แกน-มอร์แกน สแตนลีย์ ประเมินว่า ไม่มีแนวโน้มที่สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนนี้ ขณะที่สหรัฐขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าอัตรา 5% จากเม็กซิโกมีผลในวันที่ 10 มิ.ย. และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถึงระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค. เพื่อกดดันให้รัฐบาลเม็กซิโก สกัดกั้นผู้อพยพผิดกฏหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ

ด้านราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่องส่งผลลบเชิงจิตวิทยาหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้มาตรการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกยังมีผลบังคับใช้จากความกังวลสงครามการค้ามีผลต่ออุปสงค์การใช้น้ำมัน