TK จ่อเปิดสาขาแรกในเมียนมาร์ ส.ค.นี้ ปั๊มสินเชื่อตปท.ปีนี้โต 100%

HoonSmart.com>>”ฐิติกร” เดินหน้าเปิด 3 สาขาในเมียนมาร์ หลังได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ ประเดิมสาขาแรกภายในส.ค.นี้ ชูประเทศยุทธศาสตร์ใหม่ในการขยายตัวของธุรกิจ TK ในระยะยาว เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง GDP เล็งขยายสาขาเพิ่มในกัมพูชาและสปป. ลาว คาดสินเชื่อในกัมพูชา-ลาว เติบโต 100%

น.ส.ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร (TK) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับอนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการไมโครไฟแนนซ์ในสหภาพเมียนมา ในนามบริษัท Mingalaba Thitikorn Microfinance จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,520 ล้านจ๊าด หรือ 33 ล้านบาท โดยมี TK ถือหุ้นสัดส่วน 99.9% ในบริษัทดังกล่าว โดยบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการบริการไมโครไฟแนนซ์ จำนวน 3 สาขา ในมณฑลพะโค (Bago) หรือที่คนไทยรู้จักในนามหงสาวดี ซึ่งห่างจากย่างกุ้ง ประมาณ 160 กม. เพื่อให้บริการทางการเงินกับลูกค้าในเมียนมา โดยจะเริ่มเปิดสาขาแรกภายในเดือนสิงหาคมนี้

“บริษัทฯ มั่นใจว่าเมียนมาจะเป็นประเทศยุทธศาสตร์ใหม่ในการขยายธุรกิจของ TK ในระยะยาว จากปัจจัยหลักในด้านขนาดของประชากรที่มีราว 55 ล้านคน อีกทั้งเศรษฐกิจที่มีการเติบโตของ GDP อย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 7.1% ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จะช่วยสนับสนุนแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจที่บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ในการเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อจากการดำเนินธุรกิจภายในประเทศและจากธุรกิจต่างประเทศเป็น 50:50 ภายในปี 2563″น.ส.ปฐมา กล่าว

ประพล พรประภา

ด้านนายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ TK กล่าวว่า เมียนมาถือเป็นประเทศที่ 3 ที่ TK ได้ขยายธุรกิจออกจากประเทศไทยไปต่างประเทศ จากการกำหนดเป้าหมายระยะยาวว่าธุรกิจจากต่างประเทศจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเติบโตทางธุรกิจของ TK โดยที่ตลาดในประเทศไทยจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างฐานธุรกิจในอนาคตของ TK ซึ่งประเทศแรกที่ขยายออกไปคือกัมพูชา ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว 6 สาขา และจะเปิดเพิ่มอีก 6 สาขาภายในปีนี้

ประเทศที่สองคือสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) โดยเปิดให้บริการแล้ว 3 สาขา ที่เวียงจันทน์ หลวงพระบาง และสะหวันนะเขต และภายในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขาที่ปากเซ เชียงขวาง และอุดมชัย สำหรับในเมียนมา มีแผนจะเปิดบริการไมโครไฟแนนซ์ในช่วงแรก 3 สาขา โดยในสิ้นปี 2562 คาดว่าจะมีสาขาในต่างประเทศ 21 สาขา

“กัมพูชานับเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตของสินเชื่อ 144% และอัตราเติบโตของรายได้ 199.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 ซึ่งธุรกิจในกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วน 78% ของธุรกิจต่างประเทศของ TK ทั้งหมด โดยปีนี้คาดว่าจะมีอัตราเติบโตประมาณ 110% ในกัมพูชา สำหรับธุรกิจใน สปป. ลาว ถือเป็นอีกหน่วยธุรกิจที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงรองจากกัมพูชา โดยมีอัตราเติบโตของสินเชื่อ 85% และอัตราเติบโตของรายได้ 64% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 คาดว่าปีนี้อัตราเติบโตของสินเชื่อจะเติบโตประมาณ 75% ส่งผลให้อัตราเติบโตของธุรกิจต่างประเทศของ TK ในกัมพูชาและ สปป.ลาว ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 ให้สอดคล้องแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในการเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อจากการดำเนินธุรกิจภายในประเทศและจากธุรกิจต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเป็น 50:50 ภายในปี 2563” นายประพล กล่าว

ในส่วนของตลาดในประเทศ ไตรมาส 1/2562 ที่ผ่านมา มียอดขายรวม 462,205 คัน ลดลง 0.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้านผลประกอบการในไตรมาสแรก 2562 ในไตรมาสแรก รายได้เติบโต ประมาณ 2.3% จากประมาณ 957.7 ล้านบาท มาเป็นประมาณ 979.7 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่กำไรในไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 112.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดลูกหนี้เช่าซื้อรวมของ TK ในไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 9,000 ล้านบาท ลดลง 2.4% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา เทียบกับยอดขายรถจักรยานยนต์ของประเทศที่หดตัว 0.6% เนื่องจากทางบริษัทเร่งตัดหนี้สูญตั้งแต่กลางปี 2561 จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งนโยบายเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว โดยบริษัทฯ จะประเมินเป้าหมายการขยายตัวในประเทศอีกครั้งหลังมีการจัดตั้งรัฐบาล