ธปท.ยืนหลักเกณฑ์ห้ามธนาคารพาณิชย์ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ระบุความเสี่ยงยังมีอยู่ ก.ล.ต.คลังและสรรพากรแถลงพรก.เข้าวันนี้
น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีการออกประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคว่ากฎระเบียบเดิมที่ไม่ให้สถาบันการเงินทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอเรนซี เพื่อเป็นการดูแลความเสี่ยงของการเข้าไปลงทุน ซึ่งขณะนี้ความเสี่ยงต่างๆยังอยู่ จึงไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์สำหรับธนาคารพาณิชย์ใดๆ
ที่ผ่านมา ธปท. ได้ออกหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินไม่ให้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล 5 ข้อ คือ 1.ห้ามการเข้าไปลงทุนหรือซื้อขายในสกุลเงินดิจิทัล เพื่อผลประโยชน์ของสถาบันการเงินเองหรือผลประโยชน์ของลูกค้า, 2.ห้ามให้บริการรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลผ่านช่องทางให้บริการของสถาบันการเงิน, 3.ห้ามสร้างแพลตฟอร์ม เพื่อเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าเข้าไปทำธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลระหว่างกัน, 4.ห้ามให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตในการซื้อสกุลเงินดิจิทัล และ5.ห้ามสนับสนุนหรือให้คำปรึกษากับลูกค้าเกี่ยวกับการลงทุนหรือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล
ด้านนายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า กระทรวงการคลัง กรมสรรพากรและ ก.ล.ต. จะร่วมกันแถลงข่าวในวันที่ 15 พ.ค. 2561 นี้ เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงการคลัง เกี่ยวกับพระราชกำหนดฯ เพื่อวางกรอบการกำกับดูแลที่เหมาะสม ส่งเสริมให้ผู้ที่ต้องการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลโดยสุจริตสามารถทำได้ ในขณะที่มีการคุ้มครองผู้ลงทุนโดยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกหรือเป็นเหยื่อของผู้ไม่สุจริต ซึ่งครอบคลุมการระดมทุนด้วยการออกโทเคนดิจิทัลและการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
สำหรับขั้นตอนต่อไป ก.ล.ต จะเผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดรายละเอียดเกณฑ์ในเรื่องต่าง ๆ ตามที่พระราชกำหนดฯ ให้อำนาจไว้ และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เพื่อให้หลักเกณฑ์มีความเหมาะสมในทางปฏิบัติมากที่สุด โดยคาดว่ากระบวนการรับฟังความคิดเห็นและการออกเป็นประกาศลูกจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน