HoonSmart.com>>ศึกสงครามการค้ารุนแรงมากกว่าคาด บล.เคจีไอคาดกระทบกำไรบจ. 2% จากประมาณการเดิม ลดเป้าดัชนีหุ้นสิ้นปีนี้เหลือ 1,700 จุด แนะลงไปแถว 1,600 ต้นๆ น่าสนใจ “สมคิด”สั่งพาณิชย์เชิญผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน มาหารือ กระทบมากที่สุด DELTA-KCE กอดคอร่วงหนัก เคซีไอกำไรไตรมาส 1 หายวับ 50%
จีนตอบโต้สหรัฐขึ้นภาษีนำเข้า 25% มีผล 1 มิ.ย. นี้ กระทืบดัชนีดาวโจนส์ดิ่ง 617 จุด หรือ 2.38% แต่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงไม่มาก ส่วนใหญ่ไม่ถึง 1% ยกเว้นฮ่องกงมากสุด 1.5% ไทยติดลบเพียง 6.29 จุด แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะขายมากถึง 2,679 ล้านบาทก็ตาม แต่หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงรูดลงแรงต่อ DELTA ทรุด 7% นอกจากได้รับผลกระทบจากศึกครั้งนี้แล้ว ยังถูกออกจากดัชนี MSCI ด้วย และ KCE รูด 3.64%
บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ ข่าวเรื่องสงครามการค้าเป็นลบมากกว่าที่ประเมิน ทางการจีนตอบโต้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ มูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญฯ เป็น 25% จากปัจจุบัน 10% มีผลวันที่ 1 มิ.ย. ล่าสุด สหรัฐฯ ประกาศทำประชาพิจารณ์ ในวันที่ 17 มิ.ย. แนวทางให้เก็บภาษี 25% กับสินค้าของจีนอีก 3.25 แสนล้านเหรียญฯ (ปัจจุบันยังไม่ถูกเก็บภาษี) น่าจะเป็นมาตรการกดดันจากทางสหรัฐฯ ก่อนที่ทรัมป์และผู้นำจีนจะพบกันในปลายเดือน มิ.ย.นี้
ส่วนเงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นเอเชียและหุ้นไทยน่าจะยังเป็นลบท่ามกลางความเสี่ยงทางลงต่อเศรษฐกิจและกำไร บจ. ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินเบื้องต้น อาจส่งผลให้กำไร บจ. ปี 2562 ลดลงประมาณ 2% จากประมาณการปัจจุบัน และเป้าหมายดัชนีหุ้นสิ้นปี 2562 อาจลดลงมาแถวๆ 1,700 จุด (ปัจจุบันมองเป้าที่ 1,730 จุด) หากดัชนีปรับตัวลงมาแถวๆ 1,600 ต้นๆ ถือว่ามีความน่าสนใจกลับเข้าเก็งกำไรได้
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงฯ เชิญนักลงทุนและผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์และชิ้นส่วนมาหารือเบื้องต้น เพราะได้รับผลกระทบมากที่สุด ก่อนที่จะประชุมหารือกับทูตพาณิชย์ทั่วโลกในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เพื่อกำหนดเป้าหมายส่งออกต่อไป
“คาดว่าสงครามการค้ารอบใหม่ ทำให้มูลค่าส่งออกไทยในปีนี้ลดลง 5,600-6,700 ล้านเหรียญฯ หรือ 2.2% ของมูลค่าส่งออกรวม จากที่ตั้งเป้าขยายตัว 8%จากปี 2561 คิดเป็นมูลค่า 272,000 ล้านเหรียญฯ คาดว่าส่งออกต่ำกว่าเป้าหมาย 8% ยิ่งสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนจากทั่วโลก ตามมาตรการเซฟการ์ดที่จะประกาศวันที่ 17 พ.ค.นี้ จะยิ่งทำให้มูลค่าส่งออกไทยลดลงได้อีก แต่คงลดลงไม่มากนัก สหรัฐฯ น่าจะเปิดให้ผู้นำเข้าของสหรัฐฯ ในสินค้ากลุ่มยานยนต์ขอยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีได้” นางสาวพิมพ์ชนก กล่าว
ทางด้านหุ้นที่ปรับตัวลงมากกว่าตลาด เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) เปิดผลงานไตรมาส 1/2562 กำไรสุทธิเพียง 268 ล้านบาท รูดลง 50% เทียบกับกำไรสุทธิ 541 ล้านบาท โดยยอดขายรวมในรูปเงินบาทอยู่ที่ 3,113.9 ล้านบาท ลดลง 3% จากไตรมาสก่อน และลดลง 9.5% จากไตรมาส 1/2561 ส่วนยอดขายในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1% และ 8.9% ตามลำดับ เพราะเงินบาทแข็งขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐและยูโร
ปริมาณขายลดลง 1% และ 11% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงระบบการทดสอบรถยนต์ (WLTP) ทําให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชะลอคําสั่งซื้อและส่วนใหญ่เปลี่ยนไปให้ความสําคัญกับการบริหารสินค้าคงคลังมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงราคาผลิตภัณฑ์ประจําปี ตั้งแต่เดือนมกราคม กดดันอัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาอยู่ที่ 21.1%
นอกจากนี้หุ้นที่ไม่ได้เพิ่มน้ำหนักในการคำนวณดัชนี MSCI ที่จะมีผลในวันที่ 28 พ.ค.นี้ ก็ปรับตัวลงแรง อาทิ CENTEL จากเดิมคาดว่าจะได้อยู่ และ DELTA ถูกถอดออก