TKN กำไรวูบ 46% ค่าใช้จ่ายพุ่ง-ยอดขายในปท.โตชดเชยจีนหด

HoonSmart.com>>”เถ้าแก่น้อยฯ” กำไรหดเหลือ 81 ล้านบาท ลดลง 46% เหตุต้นทุน ค่าใช้จ่ายพุ่งหลังตัวแทนจำหน่ายในจีนยกเลิกสัญญาและมีการตั้งหนี้สงสัยจะสูญ ด้านยอดขายทรงตัว ตลาดในประเทศรายได้โต 12% ชดเชยยอดขายจีนลด 18%

บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) กำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/2562 จำนวน 81.32 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.06 บาท ลดลง 46.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 151.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท

สาเหตุที่กำไรสุทธิลดลงเป็นผลจากบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 87.5 ล้านบาท คิดเป็น 6.6% ของรายได้จากการขาย โดยสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้น 2.1% จากงวดเดียวกันของปีก่น แต่ลดลง 0.5% จากไตรมาส 4/2561 ซึ่งในงวดไตรมาส 1/2562 บริษัทฯ มีการตั้งหนี้สงสัยจะสูญประมาณ 13 ล้านบาท ตามนโยบายซึ่งตั้งเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการต้างชำระ โดยรายการหลักเกิดช่วงเปลี่ยนผู้แทนจำหน่ายในเมืองจีน รวมถึงการปรับเงินเดือนประจำปีและการรับพนักงานใหม่ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 45.6% จากงวดปีก่อน

ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายมีจำนวน 204 ล้านบาท คิดเป็น 15.4% ของรายได้จากการขาย โดยสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายต่อยอดขายเพิ่มขึ้น 4.6% จากงวดเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 2.8% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากไตรมาส 1/2562 มีค่าแรกเข้าสินค้าใหม่ การขยายสาขาเถ้าแก่น้อยแลนด์และเปิดร้านข้าวแกงกะหรี่ Hinoya ค่าใช้จ่ายในการทำกิจการตลาดทั้งในและต่างประเทศ การเปิดสำนักงานสาขาที่เซี่ยงไฮ้ โดยบริษัทควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายรวมทั้งปีและปรับเพิ่ม ลดให้เหมาะสมกับรายได้จากการขาย

ในขณะที่รายได้จากการขายมีจำนวน 1,321.9 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีจำนวน 1,322.2 ล้านบาท โดยตลาดในประเทศมีรายได้ 569.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ยกว่า 69% ในตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่าย ส่วนตลาดต่างประเทศ มีรายได้จากการขาย 752.6 ล้านบาท ลดลง 7.5% จากงวดเดียวกันของปีก่ิน ทั้งนี้ตลาดจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกหลัก คิดเป็น 35% ของรายได้จากการขายรวม แต่ยอดขายลดลง 18.1% จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากผู้แทนจำหน่ายรายใหม่อยู่ระหว่างเพิ่มอัตราการสั่งซื้อเพื่อทดแทนผู้จำหน่ายรายเดิมรายหนึ่งมีการเลิกสัญญาในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มียอดเติบโตต่อเนื่องในประเทศสหรัฐฯ อินโดนีเซียและมาเลเซีย เป็นต้น

บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน383.1 ล้านบาท คิดเป็น 29% ของรายได้จากการขาย โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อยอขายเพิ่ม 1.5% จากงวดเดียวกันปีก่อนและเพิ่ม 1.3% จากไตรมาส 4/2561 โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากการควบคุมส่วนสูญเสียจากการผลิต การพัฒนาทักษะพนักงานในสายการผลิตและราคาสาหร่ายที่ลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ กำไรขั้นต้นในช่งครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่งจากราคาสาหร่ายปี 2562 ที่ปรับลดจากปีก่อนกว่า 10% โดยทยอยเริ่มเบิกใช้ในช่วงปลายไตรมาส 2

บล.ซีซีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุว่า TKN ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/19 มีกำไรสุทธิ 81 ล้านบาทหรือ EPS 0.06 บาท (-46.4% yoy, +229% qoq) โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 11.04 บาท (Buy/Hold/Sell : 5/1/3)