“การเมืองไทยไม่แน่นอน Fund Flow ไหลเข้าขาดตอน”

บล.เอเซียพลัส มองการเมืองไทย ไม่แน่นอน กดเงินทุนไหลเข้าไทย ขาดตอน

จนถึงตอนนี้ การจัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ก็ยังไม่สามารถทำได้ แม้เข้าใกล้วันรับรองผลการเลือกตั้ง คือภายในวันที่ 9 พ.ค. 62 แต่สถานการณ์การเมืองของไทย ก็เปลี่ยนแปลงเร็ว แต่ละเรื่องล้วนเป็นประเด็นที่มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลทั้งสิ้น

ฝ่ายวิจัย ASP มองว่า ขณะนี้มรีประเด็นการเมืองที่ต้องติดตามใกล้ชิด 3 ประเด็น ได้แก่

1.ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องกกต. ที่ขอให้วินิจฉัยสูตรคำนวนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ดังนั้นกกต. ต้องรับผิดชอบเลือกสูตรคำนวนเอง โดยจากกระแสข่าวที่ออกมา มีโอกาสใช้สูตรที่ไม่มีข้อจำกัดว่า พรรคการเมืองที่จะได้รับการจัดสรร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 7.1 หมื่นเสียง

ในกรณีนี้จะทำให้พรรคการเมืองที่มี ส.ส. ซึ่งรวมทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ มีมากถึง 25 พรรค ทำให้การรวบรวมเสียงของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ยิ่งมีความยากขึ้นไปอีก

2.การแจกใบส้มให้ส.ส.เขตเลือกตั้งเชียงใหม่ ซึ่งเป็นของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ หลังจากประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. 95%แรกไปแล้ว กรณีนี้จะทำให้ส.ส. ของเพื่อไทย หายไปแน่นอน 1 คน จากนี้ก็ต้องติดตามดูว่า จะมีผลต่อการคำนวนส.ส.ระบบบัญชีรายชือหรือไม่ ถือเป็นอีกเรื่องที่มีความไม่แน่นอน

3. กกต.ตั้งข้อกล่าวหาหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีลงสมัครรับการเลือกตั้ง โดยมีคุณสมบัติขัดต่อกฎหมาย กรณีนี้ต้องติดตามว่า กระบวนการพิจารณาใช้เวลานานแค่ไหน และจะถูกขยายขอบเขตออกไปอย่างไร กระทบถึงสถานะของพรรค และว่าที่ส.ส.ของพรรคหรือไม่ ถือเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่ง ที่มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล

 

ความไม่ชัดเจนทางการเมืองดังกล่าว น่าจะมีผลทำให้ Fund Flow ที่ควรไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย กลับมาอยู่ในภาวะชะลอตัว SET Index จึงไม่สามารถปรับขึ้นไปได้ และมีโอกาสเผชิญความผันผวนมากขึ้น นำไปสู่การขายทำกำไรในช่วงเดือนพ.ค.ที่จะถึงนี้

เนื่องจาก SET Index ขึ้นมาแรง ทั้งที่ขาดแรงหนุนจาก Fund Flow โดยตั้งแต่ต้นปีมา Fund Flow ไหลออกจากหุ้นไทยเพียงแห่งเดียวในภูมิภาค ราว 9.5 พันล้านบาท แต่หุ้นไทยกลับบวกถึง 7.01% สูงกว่าฟิลิปปินส์,อินโดนีเซีย ที่บวก 5.1%, 4.1% ตามลำดับ และสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.ที่บวก6.34% ดังนั้นหากการเมืองยังไม่นิ่ง SET Index มีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไรสูง

ขณะที่นับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิแล้ว 4.4 หมื่นล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อ 5.1 พันล้านบาท

นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 25-30 เม.ย.62 จะมีหุ้นขึน้ เครื่องหมาย XD 18 บริษัท กดดัน SET Index ลดลง 1.28 จุด และในเดือนพ.ค. 62 มีหุ้นขึ้นเครื่องหมาย XD อีก 123 บริษัท ดังนั้นใน ช่วงครึ่งแรกของเดือนพ.ค. SET Index จะถูกกดดันให้ลดลงราว 5.35 จุด

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดต่างชาติเปิดสถานะ Long SET50 Futures ติดต่อกัน 4 วัน กว่า 1.71 หมื่นสัญญา น่าจะช่วยพยุงตลาดได้ในระยะสั้น แต่หากภาพทางการเมืองยังไม่ชัดเจน SET Index อาจเผชิญแรงขายในระยะถัดไป

กลยุทธ์การลงทุน จึงเน้นเลือกหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง ได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการภาครัฐ อย่าง ROBINS และ ERW