HoonSmart.com>>ดาวโจนส์บวกต่อ ส่งผลให้ดัชนี S&P 500-Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ ยอดขายบ้านใหม่มี.ค.เพิ่มขึ้น กำไรบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่เติบโตเกินคาด ส่วนตลาดหุ้นยุโรป หุ้นการบินลดลงจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รอผลกำไรกลุ่มธนาคารใหญ่ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 23 เมษายน 2562 ที่ 26,656.39 จุด เพิ่มขึ้น 145.34 จุด หรือ 0.55 % จากผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ นำโดย โคคา-โคล่า และทวิตเตอร์ และยังส่งผลให้ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,933.68 จุด เพิ่มขึ้น 25.71 จุด,+0.88%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,120.82 จุด เพิ่มขึ้น 105.56 จุด,+1.32%
กระทรวงพาณิชย์เผยยอดขายบ้านใหม่เดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 4.5% อยู่ที่ 692,000 ยูนิต สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 และเพิ่มขึ้นจาก 662,000 ยูนิตในเดือนก่อน
ผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด ทำให้หุ้นโคคา-โคล่าเพิ่มขึ้น 1.7% หุ้นทวิตเตอร์เพิ่มขึ้น 15.6% หุ้นยูไนเต็ดเทคโนโลยีส์เพิ่มขึ้น 2.3%
หุ้นฮาร์เล่ย์-เดวิดสันลดลง 2% จากผลกำไรลดลง เนื่องจากผลของการเรียกเก็บภาษีวัตถุดิบของสหรัฐฯทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นและจากการที่สหภาพยุโรปเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถมอเตอร์ไซค์
ตลาดยุโรปปิดบวกเล็กน้อย นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์การเมืองโลกและรอผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียน โดยกลุ่มธนาคารใหญ่ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้
คณะกรรมาธิการยุโรปเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายนในยูโรโซนลดลงถึงขั้นติดลบ 7.9 จุด และติดลบ 7.7 จุด ในสหภาพยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,523.07 จุด เพิ่มขึ้น 63.19 จุด,+0.85%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 391.35 จุด เพิ่มขึ้น 0.89 จุด,+0.23%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,591.69 จุด เพิ่มขึ้น 11.31 จุด, +0.20%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,235.51 จุด เพิ่มขึ้น 13.12 จุด,+0.11%
หุ้นกลุ่มสายการบินลดลงจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น โดยหุ้นแอร์ฟรานซ์ เคแอลเอ็มลดลง 6% หุ้นลุฟท์ฮันซ่าลดลง 1.64%
หุ้นยูนิคอร์ในเบลเยี่ยมลดลงมากกว่า 17% หลังจากปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรปี 2563
หุ้นดอยช์แบงก์ลดลง 2.18%
หุ้นยูนิเครดิตในอิตาลีลดลง 3.29% หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ลดลง 2.78% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ลดลง 1.79%
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น 2% จากรายงานข่าวว่าสหรัฐฯจะยกเลิกการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 75 เซนต์ปิดที่ 66.30 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 47 เซนต์ปิดที่ 74.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล