HoonSmart.com>>AOT เผยกลุ่มเซ็นทรัล-คิงพาวเวอร์-MINT-BA-รอยัลออร์คิดฯ เข้าซื้อซองประมูลดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ มี 4 ราย CPN , บริษัท คิงพาวเวอร์สุวรรณภูมิ , MINT,บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป เปิดยื่นข้อเสนอ 22 พ.ค. 62 “พุฒิพงศ์”เผยจับมือต่างชาติแข่งดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ-3 สนามบินภูมิภาค หาโอกาสใหม่สร้างกำไร
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า มีเอกชน 5 ราย เข้าซื้อซองเอกสารคัดเลือกผู้ประกอบการสัมปทานจำหน่ายร้านค้าปลอดอาการ (ดิ้วตี้ฟรี) ได้แก่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล , บริษัท คิงพาวเวอร์ ดิวตี้ฟรี , บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT), บริษัท การบินกรุงเทพ (BA) และ บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน (ประเทศไทย) ซึ่งอยู่ในกลุ่ม บริษัทแกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND)
ส่วนเอกชนที่เข้าซื้อซองเอกสารผู้ประกอบการโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ มี 4 รายได้แก่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) , บริษัท คิงพาวเวอร์สุวรรณภูมิ จำกัด , MINT และ บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด
ทั้งนี้ AOT ได้เปิดขายซองเอกสารทั้ง 2 โครงการ ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-18 เม.ย. 2562 และจะเปิดชี้แจงรายละเอียด ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ ก่อนจะเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันที่ 22 พ.ค.2562
ส่วนโครงการจัดหาเอกชนบริหาร ดิวตี้ฟรีใน 3 ท่าอากาศยานภูมิภาค ประกอบ ด้วย เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ บริษัทเปิดขายซองเอกสารเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ถึงวันที่ 25 เม.ย.นี้
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ (BA) เปิดเผยว่า บริษัทจับมือกับพันธมิตรต่างประเทศรายหนึ่ง ยื่นประมูลดิวตี้ฟรีในสุวรรณภูมิ และ 3 ท่าอากาศยานภูมิภาค เพื่อเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่สอดคล้องกับการพัฒนาสนามบินในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสนามบินของบริษัทเองหรือ AOT ก็สามารถเข้ารับงานบริหารได้ สามารถทำกำไรได้ดีกว่าธุรกิจสายการบินที่ขณะนี้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรอผลการประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งได้เข้าประมูลร่วมกับพันธมิตรเช่นกัน
“บริษัทหาวิธีการสร้างกำไรจากการเข้าประมูลดิวตี้ฟรี ,พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก และธุรกิจครัวการบิน รวมถึงยังมองหาธุรกิจอื่นๆ “นายพุฒิพงศ์ กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2562 บริษัทมองเห็นการเติบโตของภูมิภาค สามารถสร้างความแข็งแกร่ง โดยมีแผนเปิดเส้นทางการบินใหม่ในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กรุงเทพ-คัมรันของเวียดนาม, เชียงใหม่-กระบี่ และเชียงใหม่-หลวงพระบางของ สปป.ลาว เป็นต้น และตั้งเป้าเพิ่มสายการบินพันธมิตรร่วม จากภูมิภาคเอเชียอีก 2-3 ราย จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 27 ราย
ในปีนี้บริษัทจะรับมอบเครื่องบิน เอทีอาร์ 72-600 จำนวน 2 ลำ และขายเอทีอาร์ 72-500 โดยยังคงเป้าอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 70% แม้มีการแข่งขันสูง และราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น บริษัททำประกันความเสี่ยงจากราคาน้ำมัน อย่างน้อย 50% จนถึง 80%