EIC หั่นเป้าจีดีพีโต 3.6% ส่งออกลด คาดเงินไหลเข้าไม่มาก

HoonSmart.com>>ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หั่นเป้าเศรษฐกิจปีนี้เติบโต 3.6% จาก 3.8% หลังลดเป้าส่งออกลงจาก 3.4% เหลือ 2.7% พร้อมคาดเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่รอบนี้ไม่มากอย่างคาด

ดร.ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า EIC ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 ลงมาอยู่ที่ 3.6% จากเดิมประมาณการณ์ไว้ 3.8% หลังจากปรับลดประมาณการมูลค่าการส่งออกลงเหลือ 2.7% จากเดิมคาดไว้ 3.4% และการส่งออกภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอจากช่วงปลายปีที่แล้วตามการส่งออกและความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าโลก ภาคธุรกิจชะลอการตัดสินใจลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของการเมือง

อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจไทยยังมีแรงสนับสนุนที่สำคัญจากภาคท่องเที่ยวที่มีสัญญาณดีขึ้นจากนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ทำให้ EIC ปรับเพิ่มประมาณการนักท่องเที่ยวปีนี้เป็น 40.7 ล้านคน เติบโต 6.3% จากเดิมคาดไว้ที่ 40.2 ล้านคนและโครงการลงทุนของภาครัฐส่วนใหญ่เป็นโครงการต่อเนื่อง คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนมากถึง 7.6 แสนล้านบาทในปีนี้ ขยายตัวกว่า 7% ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวได้จากค่าจ้างแรงงานที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น แต่การบริโภคในส่วนของสินค้าคงทน เช่น การซื้อรถยนต์มีแนวโน้มชะลอตัวลง เพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมามีการซื้อจำนวนมาก

สำหรับทิศทางดอกเบี้ยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ตลอดทั้งปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวมากกวาที่กนง.คาดไว้ และอัตราเงินเฟ้อยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ คาดค่าเฉลี่ย 0.7% ในไตรมาส 1 ทั้งนี้ EIC ปรับลดประมาณการเงินเฟ้อทั้งปีลงมาอยู่ที่ 0.9% แต่กนง.จะต้องมีการใช้มาตรการในการดูแลจุดบอบบางเฉพาะจุดที่อาจกระทบต่อเสถียรภาพต่อระบบการเงินในอนาคต

ด้านค่าเงินบาท คาดว่ามีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 31-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนตัวลง

“เศรษฐกิจไทยแม้ว่าจะชะลอตัวลง แต่มีความเข้มแข็งสะท้อนจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีแนวโน้มเกินดุลต่อเนื่อง ประมาณ 6.4% ต่อจีดีพี แต่ค่าเงินบาทอาจเผชิญความเสี่ยงจากภาวะการเงินโลกกลับมาตึงตัวเร็วกว่าคาดและปัญหาเสถภียรภาพการเมืองในประเทศ เงินบาทอาจอ่อนค่า”ดร.ยรรยง กล่าว

พร้อมกันนี้ดร.ยรรยง ยังคาดว่า หากเงินจะไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่รอบนี้คงจะไม่มากเหมือน 2-3 รอบก่อนหน้านี้ เพราะต่างประเทศมีการถือครองสินทรัพย์มากขึ้นแล้ว ส่วนราคาน้ำมันคาดว่าเบรนท์เฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 66 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 71 เหรียญต่อบาร์เรล