ก.ล.ต.เล็งผ่อนเกณฑ์ “กองทุนรวมตลาดเงิน” หนุนทางเลือกพักเงิน

ก.ล.ต.เปิดรับฟังความเห็นแก้เกณฑ์กองทุนรวมตลาดเงิน (มันนี่ มาร์เก็ต) รองรับการทยอยปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาท คาดเกณฑ์ใหม่มีผลไตรมาส 3 นี้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุนรวมตลาดเงินส่งเสริมให้กองทุนรวมตลาดเงินเป็นทางเลือกในการบริหารสภาพคล่องและพักเงินระยะสั้นของผู้ลงทุน นอกเหนือจากการฝากเงินกับธนาคาร

ปัจจุบันกองทุนรวมตลาดเงินเป็นเครื่องมือในการบริหารสภาพคล่องและพักเงินระยะสั้นของผู้ลงทุนนอกเหนือจากการฝากเงินกับธนาคาร โดย ณ เดือนก.พ.2561 กองทุนรวมตลาดเงินมีขนาด 2.4 แสนล้านบาท คิดเป็น 3% ของมูลค่าเงินฝากออมทรัพย์ และในอนาคตสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะมีการทยอยปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากให้เหลือเพียง 1 ล้านบาท กองทุนรวมตลาดเงินจึงมีแนวโน้มที่จะขยายตัวและยังเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนในการพักเงิน

อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันกองทุนรวมตลาดเงินยังมีข้อจำกัดการลงทุนที่เข้มงวดกว่ากองทุนรวมประเภทอื่น ๆ ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการกองทุนของบริษัทจัดการ (บลจ.) ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนได้ดียิ่งขึ้น โดยปรับปรุงในสาระสำคัญ อาทิ

การขยายวงเงินในการชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนในวันที่ทำการซื้อขายหน่วยลงทุน จากปัจจุบันวงเงินสูงสุดที่ผู้ถือหน่วยลงทุนแต่ละรายจะขายคืนต้องไม่เกิน 80% ของมูลค่ารวมของหน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีอยู่ล่าสุด หรือ 20,000 บาท แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า โดยจะเปิดให้บลจ.กำหนดวงเงินขายคืนรายบุคคลได้เองโดยพิจารณาให้สอดคล้องพฤติกรรมการไถ่ถอนหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุน รวมทั้งให้บลจ.กำหนดวงเงินรวมของการขายคืนไม่เกินทรัพย์สินสภาพคล่องสุทธิ โดยกำหนดสัดสวนการดำรงทรัพย์สินสูงกว่าสัดส่วนตามเกณฑ์กำหนดมากกว่าหรือเท่ากับ 10% ของ NAV

นอกจากนี้อนุญาตให้ บลจ. สามารถกำหนดราคาหน่วยลงทุนคงที่ได้ โดยให้ปรับปรุงจำนวนหน่วยลงทุนให้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาหน่วยลงทุน รวมทั้งการอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เสนอขายเฉพาะกองทุนรวมตลาดเงินซึ่งมีความเสี่ยงต่ำแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องประเมินความเหมาะสมในการลงทุน (suitability test) ของผู้ลงทุนก็ได้ ทั้งนี้คาดว่าประกาศดังกล่าวจะออกมาภายในไตรมาส 3 ปี 2561 นี้

ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. http://capital.sec.or.th/webapp/phs/upload/phs1525674039hearing_20_2561.pdf ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสาร 0-2033-9660 หรือทาง e-mail preeporn@sec.or.th หรือ napaporn@sec.or.th จนถึงวันที่ 5 มิ.ย.2561