HoonSmart.com>>บล.เอเซียพลัส ยกสถิติเลือกตั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมา ในสัปดาห์แรกหุ้นตอบรับเชิงบวกจากเงินทุนไหลเข้า แต่รอบนี้ภาพรัฐบาลไม่ชัดเจนเรื่องเสถียรภาพ ส่วนหุ้นรายตัว ยังคงแนะนำ PTTEP เพิ่มราคาเป้าหมาย 10 บาทเป็น 178 บาท รวมการลงทุนในมาเลเซีย และ DCC เงินปันผลมากกว่า 5% น่าสนใจ
บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส คาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ (25-29 มี.ค.2562) ยังน่าจะได้ผลจิตวิทยาเชิงบวกหนุนจากการเลือกตั้ง ฝ่ายวิจัยคาดดัชนีน่าจะปรับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1640 จุดได้ โดยแนะนำ PTTEP ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา และ DCC สลับแทนที่ STPI ที่ปรับตัวค่อนข้างแรงแล้วออกไป
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำคงน้ำหนักหุ้นไทยไว้ที่ 40% ของพอร์ตรวมตามเดิม ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศคงน้ำหนักไว้ที่ 15% ให้ตลาดหุ้นจีนมากเหมือนเดิม แต่ได้เพิ่มตัวเลือกหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯเข้ามาบางส่วน
ส่วนพอร์ตตราสารหนี้ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าหลายประเทศมีความชัดเจนว่าจะยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2562 กลยุทธ์การปรับไปเลือกตราสารหนี้ที่มี Duration ยาวขึ้น พร้อมปรับน้ำหนักการลงทุนเพิ่มเป็น 25% ส่วนการลงทุนในตลาดการเงินมีน้ำหนักการลงทุนไว้ที่ 5% ถือครองเพื่อเป็นที่พักเงินรอโอกาสลงทุนในอนาคต สำหรับตราสารการลงทุนอื่นๆ ทั้ง FCN และ ELN ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจาก Coupon Yield ภายใต้ภาวะที่ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น คงน้ำหนักการลงทุนไว้ที่ 15% ตามเดิม
การลงทุนในสัปดาห์ที่ผ่านมาพอร์ตให้ผลตอบแทนรวม 0.70% ซึ่งทุกประเภทสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนเป็นบวกและชนะ Benchmark ในส่วนของหุ้นไทยที่มีน้ำหนัก 40% ให้ผลตอบแทน 0.71% นำโดยหุ้นเด่นอย่าง PTTEP และ STPI ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศ การเลือกหุ้นจึน ทำให้พอร์ตได้รับผลตอบแทนถึง 2.21% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)คงดอกเบี้ย 2.5% และส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หนุนตลาดหุ้นโลกฟื้นตัว 0.75%
“สัปดาห์นี้ยังคงแนะนำหุ้น PTTEP แม้ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปรับตัวขึ้น 3% ก็ตาม โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 168 บาท เป็น 178 บาท หลังเข้าซื้อกิจการและเข้าดำเนินการสำรวจผลิตปิโตรเลียมในมาเลเซีย 5 โครงการ ทั้งนี้มูลค่าที่ 178 บาท มาจากแหล่งเอราวัณและบงกช 20 บาท และโครงการมาเลเซียในรอบนี้อีก 10 บาท ส่วน STPI ที่แนะนำให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวขึ้น 7% ในสัปดาห์นี้ขอให้ทยอยลดน้ำหนักลง สลับตัวไปหา DCC แทน มูลค่าเหมาะสม 2.80 บาท เนื่องจากราคาหุ้นปรับลดลงมามากจนอัตราผลตอบแทนปันผลสูงกว่า 5% ขณะที่ ปัจจัยพื้นฐาน เห็นแนวโน้มเชิงบวกจากการปรับปรุงช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า และราคาพืชผลการเกษตรที่ฟื้นตัวขึ้น ส่งผลดีต่อยอดขาย” บล.เอเซียพลัสระบุ
สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.นี้ บล.เอเซียพลัสให้ข้อมูลเชิงสถิติบ่งขี้ว่าการเลือกตั้ง 4 ครั้งล่าสุด ดัชนีฯจะปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 4.8% ในสัปดาห์แรกหลังการเลือกตั้ง เกิดจากแรงขับเคลื่อนที่มาจากเงินทุนไหลเข้านักลงทุนต่างชาติราว 8,000 ล้านบาท สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าสัปดาห์แรกหลังการเลือกตั้ง ดัชนีก็น่าที่จะตอบสนองเชิงบวกเช่นกัน แต่ด้วยสถานการณ์แวดล้อมมีความแตกต่างจากรอบที่ผ่านมา โดยเฉพาะระบบการเลือกตั้ง และการแบ่งขั้วทางการเมืองจน ทำให้มองภาพรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้ไม่ชัดเจน อาจทำให้ดัชนีตอบสนองเชิงบวกในอัตราที่น้อยลง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งที่จะออกมาด้วย