SAPPE ตั้งเป้ายอดขายโต 30% แจกปันผลผู้ถือหุ้น 0.66 บาท

HoonSmart.com>>”เซ็ปเป้” ตั้งเป้ายอดขายปี 2562 เติบโต 30% ลุยเปิดตัวสินค้าใหม่กว่า 20 รายการ หลังตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Danone ผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของโลก ประเดิมเปิดตัว B’lue เครื่องดื่มรูปแบบใหม่ผสมวิตามิน พร้อมจ่ายปันผลผู้ถือหุ้น 0.66 บาทต่อหุ้น หลังผลงานปีก่อนกวดรายได้ 2,886 ล้านบาท กำไร 352 ล้านบาท

น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ (SAPPE) ผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนวัตกรรมที่มุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพ เปิดเผยว่า ปี 2562 ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ที่ 30% โดยมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ตลอดทั้งปี รวมประมาณ 20 รายการ เพื่อวางจำหน่ายทั้งในไทยและต่างประเทศ หลังจากได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท MYEN PTE.LTD. หรือ Danone ผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของโลก เปิดตัว B’lue เครื่องดื่มผสมวิตามินที่พร้อมมอบความสดชื่นเหนือใครในแบบ “Be More with B’lue (บีมอร์ วิธ บลู)”

ปิยจิต รักอริยะพงศ์

“เราเตรียมรุกตลาดไทยหลังประสบความสำเร็จมาแล้วในต่างประเทศ โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ ไอเจน (iGen) โดยเครื่องดื่ม B’lue มีจำหน่ายใน 3 รสชาติ ได้แก่ เพลย์ฟูลพีช โพสซิทิฟแพร์ และคูลคาลาแมนซี่ ผสมผสานที่สุดของรสชาติที่ผู้บริโภคชื่นชอบ ความสดชื่น กับ วิตามิน B เพื่อสุขภาพ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดเครื่องดื่มในปริมาณน้ำตาลน้อย พร้อมการันตีคุณภาพด้วยโลโก้ทางเลือกเพื่อสุขภาพ Healthier Choice (เฮลธิเออร์ ช้อยส์) ราคาขวดละ 25 บาท (500 ml.) โดยปัจจุบันเริ่มวางจำหน่ายในกูร์เมต์มาร์เก็ต และจะขยายช่องทางจำหน่ายทั่วประเทศในวันที่ 21 มีนาคมนี้”น.ส.ปิยจิต กล่าว

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิงบการเงินเฉพาะกิจการปี 2561 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.66 บาท คิดเป็นร้อยละ 60 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 200,882,932.8 บาท ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 30 เมษายนนี้ และจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 หลังได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 เป็นที่เรียบร้อย

ปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,886 ล้านบาท เติบโต 5.1% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,746 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มและการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่สู่กลุ่ม Healthier Snack อาทิ ขนมขบเคี้ยวจากเนื้อปลาทะเลภายใต้แบรนด์ ZEA MAX และการจำหน่ายสินค้าในตลาดต่างประเทศกว่า 80 – 90 ประเทศทั่วโลก ที่มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น แม้ว่าในแง่กำไรสุทธิจะชะลอตัวจากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนตลอดปีที่ผ่านมา