ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อ หลังซาอุดิอาระเบียประกาศปรับลดการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน เม.ย. หนุนราคา WTI บวก 0.08 เหรียญสหรัฐ ส่วนเบรนท์ขยับ 0.09 เหรียญสหรัฐ
บริษัท ไทยออยล์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ หลังซาอุดิอาระเบียประกาศปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน เม.ย. 62 ให้อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 7 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจะควบคุมไม่ให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของประเทศ เกินระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับลดมากกว่าระดับที่ได้มีการตกลงกับกลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะผลิตน้ำมันดิบที่ระดับ 10.31ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ปรับลดกำลังการผลิตในเดือน ก.พ. 62ลงมากกว่าเป้าหมายที่ตกลงกับทางกลุ่มโอเปก คิดเป็นร้อยละ 119 จากที่ได้ตกลงไว้ ขณะที่บริษัท PDVSAซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ยังคงไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้ นับตั้งแต่ที่เวเนซุเอลาประสบปัญหาไฟฟ้าดับทั่วประเทศในวันที่ 7มี.ค. ที่ผ่านมา
ด้านสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 8 มี.ค. 62 ปรับตัวลดลง 2.6ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 449ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 2.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันที่ 12 มี.ค.62 อยู่ที่ 56.87 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.08 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ 0.14% ส่วนเบรนท์ปิด 66.67 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.09 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หรือ 0.13%
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันได้รับปัจจัยลบจากกรณีสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)คาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากระดับ 12.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2562 ไปเป็น 13.03ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2563 อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบโลกจะปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 1.45ล้านบาร์เรลต่อวัน