‘เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์’ จ่ายเงินปันผลทรัสต์ AIMIRT งวดไตรมาส 4/2561 ที่อัตรา 0.1985 บาทต่อหน่วย ชี้ศักยภาพทรัพย์สินกองทรัสต์ที่มีคุณภาพสูง มีผู้เช่าทรัพย์สินเต็ม 100% บริหารอย่างมีประสิทธิภาพ หนุนทั้งปีจ่าย 0.7674 บาทต่อหน่วย สูงกว่าคาดการณ์ผลตอบแทนปีแรกที่ 0.7377 บาทต่อหน่วย พร้อมเตรียมเข้าลงทุนเพิ่มครั้งที่ 1 ในทรัพย์สิน 4 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 4,300 ล้านบาท หนุนขนาดกองทรัสต์เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าตัว
นางสาวญาณิชศา ชาติวุฒิกอบกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระรายแรกในประเทศไทย ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ ‘AIMIRT’ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2561 (ต.ค.-ธ.ค. 2561) และกำไรสะสม ให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ AIMIRT ในอัตรา 0.1985 บาทต่อหน่วย สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งกองทรัสต์ และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 มีนาคม นี้ ซึ่งเมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลของกองทรัสต์ 3 ครั้งก่อนหน้านี้ จากผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2560 (วันจัดตั้งกองทรัสต์) ถึง วันที่ 30 กันยายน 2561 ในอัตรารวม 0.5689 บาทต่อหน่วย จึงทำให้ทรัสต์ AIMIRT อนุมัติจ่ายเงินปันผลไปแล้วรวม 0.7674 บาทต่อหน่วยนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นอัตราที่สูงกว่าประมาณการผลตอบแทนในปีแรกที่ 0.7377 บาทต่อหน่วยอีกด้วย
การจ่ายเงินปันผลในปีแรกของทรัสต์ AIMIRT ที่สูงกว่าคาดการณ์นั้น เป็นผลมาจากการคัดเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่มีคุณภาพสูง อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพเป็นที่ต้องการของผู้เช่า และมีศักยภาพในการสร้างรายได้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพของผู้จัดการกองทรัสต์ สามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100% ได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กองทรัสต์มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น และมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2561 อยู่ที่ 290.72 ล้านบาท
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การที่ทรัสต์ AIMIRT มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเกิดจากความได้เปรียบของกองทรัสต์ที่บริหารงานโดยผู้จัดการกองทรัสต์อิสระที่ไม่ได้เป็นบริษัทในเครือของเจ้าของทรัพย์สินรายใดรายหนึ่ง จึงเป็นผลดีด้านความโปร่งใสและเปิดกว้างโอกาสในการสรรหาและคัดเลือกทรัพย์สินที่มีคุณภาพดีและมีศักยภาพเพื่อให้กองทรัสต์เข้าลงทุนและจัดหาประโยชน์ ประกอบกับการมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูงจึงสามารถบริหารจัดการกองทรัสต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ในรอบปี 2561 ที่แข็งแกร่งและสามารถรักษาอัตราผลตอบแทนให้กับนักลงทุนให้อยู่ในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง
นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า แม้ทรัสต์ AIMIRT จะมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่โดดเด่นน่าพอใจ แต่ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ AIMIRT ยังมองโอกาสสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมยื่นไฟลิ่งเพื่อลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในทรัพย์สินใหม่ที่มีคุณภาพและมีศักยภาพการเติบโตที่ดี จำนวนทั้งสิ้น 4 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 4,300 ล้านบาท ได้แก่ ห้องเย็นโครงการเจดับเบิ้ล ยูดี แปซิฟิค (ส่วนขยายเพิ่มเติม) ของกลุ่มบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) คลังสินค้าโครงการ TIP 8 ของบริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด ถังเก็บสารเคมีเหลวและคลังสินค้าโครงการ SCC ของบริษัท สยามเฆมี จำกัด (มหาชน) และคลังสินค้าโครงการสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ของบริษัท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด ซึ่งการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินใหม่ในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้ และเพิ่มขนาดทรัพย์สินของกองทรัสต์ให้เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ส่งผลดีต่อการเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหน่วยทรัสต์และสร้างผลตอบแทนที่ดีและมีเสถียรภาพแก่นักลงทุนได้ในระยาว