SAWAD โชว์กำไรทะลุ 3 พันล้าน พอร์ตลูกหนี้เฉียด 3 หมื่นล้าน-กดเอ็นพีแอลเหลือ 3%

HoonSmart.com >> กลุ่มศรีสวัสดิ์ ลั่นปีนี้พร้อมรุกธุรกิจเต็มสูบ หลังหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อชัดเจน กลุ่มคาเธ่ย์ไต้หวัน ใส่เงินเพิ่มทุนครบ 2.5 พันล้านบาท เดินหน้าขยายสาขาอีก 230 แห่ง เป็นทั้งหมด 3,100 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ แจกปันผลทั้งหุ้น-เงินสด รวม 0.112 บาท/หุ้น

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 2561 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 285 ล้านบาท หรือ 10.52% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 2,751 ล้านบาท โดยรายได้รวมเติบโต 12.6% เป็น 7,881.3 ล้านบาท

ธิดา แก้วบุตตา

ทั้งนี้ รายได้รวมเติบโตถึง 20.2% หากในปี 2560 ไม่รวมรายการพิเศษ จำนวน 442.56 ล้านบาท ได้แก่ การปรับปรุงมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้มาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ 185.65 ล้านบาท กำไรจากการขายเงินลงทุนของบริษัทย่อย 154.85 ล้านบาท และรายการกำไรจากการโอนเปลี่ยนประเภทเงินลงทุนจำนวน 102.06 ล้านบาท

นางสาวธิดา กล่าวต่อว่า รายได้รวมที่เพิ่มขึ้นมาจากพอร์ตลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้น 29.05% เป็น 29,573.18 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของกลุ่มบริษัทที่ต้องการให้บริการลูกค้าคลอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบันมีสาขาจำนวน 2,870 สาขา และปีนี้ตั้งเป้าว่ามีสาขาทั้งหมด 3,100 สาขา

สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล ณ วันที่ 31 ธ.ค.2561 ลดลงมาเหลือที่ 3.02 % จากปีก่อนมีประมาณ 3.94% เนื่องจากระบบการบริหารหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 388.35 ล้านบาท ลดลง 5.46 ล้านบาท จากปี 2560 จำนวน 393.81 ล้านบาท

ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ ยังเติบโตต่อเนื่อง หลังจากที่กฏระเบียบการปล่อยสินเชื่อมีความชัดเจนมากขึ้น และกลุ่มคาเธ่ย์ ไต้หวัน ซึ่งเป็นกลุ่มการเงินขนาดใหญ่และน่าเชื่อถือของไต้หวัน ได้ใส่เงินเพิ่มทุนให้กับบริษัทครบทั้งจำนวนกว่า 2,500 ล้านบาท ทำให้ฐานะการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่ง มีต้นทุนการเงินที่ถูกลง จึงมีความพร้อมที่จะขยายสินเชื่อมากขึ้น

“กลุ่มคาเธ่ย์ไต้หวัน ใส่เงินเพิ่มทุนมาครบแล้ว ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็นประมาณ 10% ซึ่งทางกลุ่มคาเธ่ย์ไต้หวัน ยืนยันว่าจะเข้ามาลงทุนในระยะยาว และจะเข้ามาเกื้อหนุนธุรกิจร่วมกันในอนาคต” นางสาวธิดากล่าว

ทางด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2561 ให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 134.9 ล้านบาท คิดเป็นอัตราหุ้นละ 0.112 บาท โดยจ่ายเป็นเงินสดหุ้นละ 0.012 บาท จำนวน 14,457,260 บาท และจ่ายเป็นหุ้น จำนวน 120,477,158 หุ้น ในอัตรา 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็น 0.10 บาทต่อหุ้น รวม 120.47 ล้านบาท ให้ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล ในวันที่ 7 พ.ค. 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 22 พฤษภาคม 2562