HoonSmart.com>>”ดีโอดี ไบโอเทค” อวดงบปี 61 กวาดรายได้รวม 673 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.23 % หนุนกำไรสุทธิ 306 ล้านบาท เติบโต 115.40% ดึงทีมการตลาดมือดีร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจ หวังเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า ได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้าน CEO ประกาศปรับโมเดลทางธุรกิจใหม่ มุ่งเน้นการขยายช่องการตลาด ในการ ตอบสนองกลุ่มลูกค้า เพื่อเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งของธุรกิจ
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำงวด 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 673.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.23% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 388.56 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 306.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.40 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 142.19 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 61.51 % เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 1.53 %
สาเหตุที่บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ย้ายที่ตั้งโรงงานใหม่ ตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิต ในการรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ได้ เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตประมาณ 1,000,000 กล่องต่อเดือน สามารถรองรับการผลิตได้เต็มที่กว่า 1,600,000 กล่องต่อเดือน หรือคิดเป็นประมาณ 70% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จากการรับจ้างพัฒนาและผลิต (ODM) ประกอบกับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีออเดอร์ใหม่ จากกลุ่มลูกค้าหลากหลายมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการย้ายฐานผลิตเดิม มาผลิตและออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ๆกับทางบริษัทฯ เนื่องจากมาตรการคุมเข้มของอย.ที่ตรวจสอบโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ได้มาตรฐาน
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติ จดตั้งบริษัทย่อย เพื่อดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาสินค้าและกระจายสินค้า ภายใต้ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดย DOD ถือหุ้น 80% ส่วนอีก 20% ถือหุ้นโดย ผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านการทำการตลาด ออนไลน์ และ ออฟไลน์ ที่ติดลำดับ TOP 5 ของประเทศ โดยสาเหตุที่ บริษัทฯได้ดึงพันธมิตร ดังกล่าวเข้ามาร่วมเป็น Strategic Partner เพื่อจัดตั้งบริษัทย่อยในครั้งนี้ เนื่องจาก บริษัทฯ เล็งเห็นถึง ศักยภาพ และความเชี่ยวชาญ ในการเป็นผู้นำด้านการตลาด ทั้งออนไลน์ และ ออฟไลน์ ในการขายผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพ ที่ครบวงจร โดยมีทีมสมาชิก ซึ่งเป็นผู้นำด้านการวางแผน เพื่อขยายตลาด ไปยังกลุ่มลูกค้า ทั้งออนไลน์ และ ออฟไลน์ เกือบ 500 ราย ซึ่งทีมดังกล่าว สามารถทุบสถิติ ในการสร้างยอดขาย ติดลำดับต้นๆ ของประเทศมาแล้ว
“เชื่อว่า การที่ DOD ได้ทีมพันธมิตรระดับชั้นนำของวงการมาร์เก็ตติ้ง มาเสริมทีม นอกจากเป็นการช่วยผลักดัน และ หนุนความแข็งแกร่ง ของDOD แล้ว ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการเป็นผู้นำด้านการให้บริการ One Stop Service Solution อีกด้วย ซึ่งแผนกลยุทธ์ เพื่อขยายไลน์ธุรกิจ ในรูปแบบดังกล่าว จะเป็นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยคาดว่าการดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อย จะแล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 1/2562 นี้”น.ส.ศุภมาส กล่าว
อย่างไรก็ตาม นโยบายในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ โดยการมุ่งเน้น ขยายไปยังไลน์ธุรกิจใหม่ๆนั้น ยิ่งเป็นการแสดงศักยภาพให้เห็นถึง การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอางและสกินแคร์ แบบครบวงจร ของ DOD สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่องทางที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นก็จะเป็นไปตามแผนนโยบาย ของบริษัทฯ ที่เคยให้ไว้ว่าจะเป็นบริษัทฯที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ในอนาคต