“ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” ปี 61 กำไรสุทธิ 3.25 พันล้านบาท ลดลง 45% จากปีก่อน เหตุรายการพิเศษ ด้านกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติลดเพียง 13% ชูยอดขายในไตรมาส 4/61 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ บอร์ดอนุมัติปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น XD วันที่ 4 มี.ค.62 พร้อมชงผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มวงเงินออกหุ้นกู้อีก 1 หมื่นล้านบาท รวมไม่เกิน 5 หมื่นล้านบาท
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) แจ้งผลประกอบการปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 มีกำไรสุทธิ 3,256.21 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.68 บาท ลดลง 45.63% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 5,989.18 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.25 บาท
ในปี 2561 การดำเนินงานธุรกิจในภาพรวมยังคงถูกท้าทายอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปีโดยเฉพาะจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบและการแข็งค่าของค่าเงินบาทต่อสกุลเหรียญสหรัฐ ส่งผลกระทบอย่างมากโดยเฉพาะต่อผลประกอบการไตรมาส 1/2561 แต่หลังจากนั้น ผลประกอบการได้ ฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปรกติสูงสุดในรอบ 5 ปีในไตรมาส 3/2561 และยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4/2561 และแม้ว่ายอดขายปี 2561 ในรูปของเงินบาทจะลดลง 1.2% แต่ยอดขายในรูปสกุลเงินสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น 3.5% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 4,122 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้บันทึกรายการค่าใช้จ่ายที่เป็นรายการพิเศษ เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจปรกติหลายรายการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติในปี 2561 อยู่ที่ 5,191 ล้านบาท ลดลง 13.4% จากปีก่อนหน้า โดยรายการพิเศษ ได้แก่ 1) การตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพิเศษทางกฎหมายสุทธิคิดเป็นมูลค่า 1,359 ล้านบาท (ไตรมาส 2/2561) 2) ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการปิดธุรกิจแซลมอนในสกอตแลนด์มูลค่า 489 ล้านบาท (ไตรมาส 3,4/2561) และ 3) การด้อยค่าในเงินลงทุนใน TMAC มูลค่า 87 ล้านบาท (ไตรมาส 4/2561) ซึ่งส่งผลให้กำไรสุทธิรวมของบริษัทลดลง
ส่วนงวดไตรมาส 4/2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปรกติลดลง 13.4% จาก 1,413 ล้านบาทในปี 2560 เหลือ 1,223 ล้านบาท แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้น 55% จากไตรมาสที่ 4/2560 จากความผันผวนของราคาวัตถุดิบในไตรมาส 4/2560 และการควบคุมต้นทุนในไตรมาส 4/2561 ในขณะที่กำไรสุทธิตามงบการเงินไตรมาส 4/2561 อยู่ที่ 1,067 ล้านบาท ซึ่งรวมผลกระทบจากการด้อยค่าในเงินลงทุนใน TMAC (87 ล้านบาท) และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการปิดธุรกิจแซลมอนในสกอตแลนด์ (69 ล้านบาท)
คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2561 มูลค่า 0.15 บาทต่อหุ้น ทำให้เงินปันผลจ่ายสำหรับปี 2561 อยู่ที่ 0.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งอัตราการจ่ายปันผลคิดเป็น 59% ของกำไรสุทธิ สำหรับวัน XD ได้แก่ วันที่ 4 มี.ค.2562 และปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 7 มี.ค.2562 และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 23 เม.ย.2562
นอกจากนี้อนุมัติการเพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ และหรือ บริษัทย่อย จากเดิม ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 40,000 ล้านบาท (หรือเงินสกุลอื่นในจำนวนเทียบเท่า) เป็นไม่เกิน 50,000 ล้านบาท (หรือเงินสกุลอื่นในจำนวนเทียบเท่า) ในลักษณะหมุนเวียน และอนุมัติให้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัท ไทยยุเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด ให้แก่กรรมการ ผู้บริหารและพนังานของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์