HoonSmart.com>>”สแกน อินเตอร์” ตั้งเป้าปี 62 รายได้โต 30-40% เตรียมส่งมอบรถเมล์ NGV ล็อตสุดท้าย 189 คัน เร็วกว่าแผน พร้อมเปิดสถานีบริการก๊าซ NGV เพิ่ม 4 แห่ง เป็น 13 แห่ง ส่วนธุรกิจไฟฟ้า เริ่ม COD โรงไฟฟ้ามินบู เมียนมา อีก 50 เมกะวัตต์
ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ (SCN ) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานปี 62 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 30 – 40% โดยในไตรมาส 1/62 จะมีการส่งมอบรถเมล์ NGV ลอตสุดท้ายจำนวน 189 คัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 731 ล้านบาท รวมถึงจะมีรายได้จากงานดูแลและซ่อมบำรุงรักษารถเมล์ NGV เป็นระยะเวลา 10 ปี อีกทั้งยังให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการจัดซื้อจัดเช่าของ ขสมก. ที่ต้องการรถเมล์ที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาให้บริการแก่ประชาชน ทั้งรถเมล์ไฮบริด รถเมล์ไฟฟ้า และรถเมล์ NGV ซึ่งมีแผนจัดซื้อจัดเช่ารถเมล์เพิ่มเติมอีกกว่า 2,000 คัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ในฐานะกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ได้เตรียมส่งมอบรถเมล์งวดสุดท้ายให้แก่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ โดยแบ่งออกเป็น 3 รอบ รอบแรกจำนวน 40 คันในวันที่ 20 ก.พ. รอบที่สอง จำนวน 60 คันในวันที่ 28 ก.พ. และรอบสุดท้าย อีก 89 คัน ภายใน 12 มี.ค.นี้ ช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5
พร้อมกันนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดสถานีบริการก๊าซ NGV แห่งใหม่เพิ่มอีก 4 แห่ง จากปัจจุบันที่มีทั้งหมด 9 แห่ง และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการครบทั้ง 13 แห่งภายในปีนี้ และยังจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มอีก 50 เมกะวัตต์ จากทั้งหมด 220 เมกะวัตต์ ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ประเทศเมียนมา
ดร.ฤทธี กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2561 มีรายได้รวม 3,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,515 ล้านบาท ส่วน EBITDA เพิ่มขึ้น 7.6% ในขณะที่มีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท ลดลง 17.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 217 ล้านบาท เนื่องจากการชะลอตัวของการใช้ NGV ในประเทศไทย รวมทั้งผลกระทบของต้นทุนทางการเงินและค่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ สาเหตุมาจากในปี 2561 ที่ผ่านมา มีการลงทุนสูงขึ้น 1,000% หรือคิดเป็นจำนวน 1,200 ล้านบาท เพื่อขยายแหล่งรายได้ และต่อยอดความเข้มแข็งทางธุรกิจด้านพลังงานไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเริ่มออกดอกออกผลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในปี 62 นี้
ทั้งนี้ รายได้รวมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจากกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ทำรายได้พุ่ง 50.1% มาจากยอดขายของธุรกิจหลักอย่างก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (“iCNG”) ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นจากผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งรับรู้ถึงประโยชน์จากการใช้พลังงานที่สะอาดและมีความคุ้มค่า และในไตรมาส 4/61 มีการรับรู้รายได้และกำไรจากการส่งมอบรถเมล์ NGV อีกจำนวน 200 คัน รวมทั้งสิ้นได้ส่งมอบไปแล้ว 300 คัน จากทั้งหมด 489 คันให้แก่ขสมก.
ล่าสุดได้จับมือกับ ‘บางจาก’ เปิดสถานีบริการบางจากแบบครบวงจร ที่จำหน่ายเชื้อเพลิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ NGV ที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และที่อำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น ไปเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าการใช้ NGV ในภาพรวมของประเทศจะลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการสนับสนุนเชื้อเพลิงดีเซลของภาครัฐ แต่ SCN ก็ยังประสบผลสำเร็จในการขยายธุรกิจประเภทอื่น ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและยังคงรักษาฐานกำไรสุทธิได้อย่างดี จากสถานการณ์มลพิษฝุ่น PM 2.5 บริษัทฯ มั่นใจว่าภาครัฐจะกลับมาสนับสนุนเชื้อเพลิงที่ประหยัดและสะอาดอย่าง NGV และจะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2562
นอกจากนี้ SCN ได้เล็งเห็นศักยภาพของกลุ่มธุรกิจยานยนต์ จึงวางแผนขยายธุรกิจในส่วนนี้เพิ่มเติม และจะมีการปรับโครงสร้างธุรกิจบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจและสะดวกในการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนรายได้ของบริษัทฯ โดยคาดว่า Synergy จากการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตลอดปีที่ผ่านมาและที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จะส่งเสริมให้ผลประกอบการในปี 2562 เติบโตอย่างต่อเนื่อง
คณะกรรมการบริษัทฯ ประชุมเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2562 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2561 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 120 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 57 ของกำไรสุทธิตามงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยบริษัทฯ จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์รับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 30 เม.ย.2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พ.ค.2562