HoonSmart.com >> ฟิทช์ฯคาด DTAC เปิดศึกการตลาด เสนอแพ็กเกจดึงดูดลูกค้า ทวงส่วนแบ่งตลาดคืน คาดจะเห็นกำไรเติบโตในปี 2563 ส่วน AIS ยึดกลยุทธ์ขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตความสูงยังคงไปได้สวย
บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่าผู้ประกอบการโทรคมนาคมจะเริ่มใช้การส่งเสริมการตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งน่าจะกดดันกำไรโดยเฉพาะ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC)น่าจะนำเสนอแพ็กเกจการให้บริการที่ดึงดูดมากขึ้น เพื่อต้องการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกลับคืน นอกจากนี้กำไรของ DTAC ยังได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้แก่ บริษัท กสท โทรคมนาคม สำหรับการเช่าใช้อุปกรณ์โทรคมนาคม และ บริษัท ทีโอที สำหรับการให้คลื่นความถี่ 2.3 GHz คาดว่าสัดส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ต่อรายได้ (EBITDA Margin) จะลดลงมาอยู่ที่ 36.5% ในปี 2562 จาก 37.8% ในปี 2561 และจะดีขึ้นในปี 2563
ขณะที่การให้ส่วนลดค่าเครื่องที่จำกัดอยู่เฉพาะบางพื้นที่ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด( AIS) น่าจะมีผลกระทบต่อ EBITDA Margin ของบริษัทไม่มากนัก
ฟิทช์คาดว่าสถานะทางการตลาดของ DTAC จะปรับตัวดีขึ้นในปี 2562 หลังจากที่บริษัทชนะการประมูลคลื่นความถี่ 1.8 GHz และ 900 MHz จากก่อนหน้ามีความเสียเปรียบในด้านคลื่นความถี่ที่ถือครองอยู่ และคุณภาพของเครือข่ายเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และเป็นข้อจำกัดในการแข่งขัน แต่การปรับปรุงคุณภาพเครือข่ายและการปรับปรุงภาพลักษณ์ น่าจะใช้เวลาหลายไตรมาส ดังนั้นการปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA น่าจะเกิดขึ้นในปี 2563 ทำให้บริษัทรักษาอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO-Adjusted Net Leverage) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 2.5 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตปัจจุบันได้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวที่ 2.0 เท่าในปี 2562
ส่วน AIS น่าจะได้รับประโยชน์จากกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่มีความผันผวนต่ำกว่า และมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงกว่าธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ฟิทช์คาดว่าการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง กำไรจากการดำเนินงานที่สามารถคาดการณ์ได้ และการลงทุนที่ลดลง น่าจะทำให้บริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินให้สอดคล้องกับอันดับเครดิตปัจจุบันได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
กระแสเงินสดสุทธิของ AIS ในปี 2562 น่าจะเป็นบวก เนื่องจากค่าใช้จ่ายสำหรับคลื่นความถี่และการลงทุนในโครงข่ายลดลง หลังจากที่บริษัทเสร็จสิ้นการลงทุนก่อสร้างโครงข่าย 3G และ 4G จะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO-Adjusted Net Leverage) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5-1.6 เท่าในปี 2562 จาก 1.7 เท่าในปี 2561 และทำให้ AIS มีความคล่องตัวทางการเงินมากขึ้นเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้น
สำหรับผลประกอบการของผู้ประกอบการสองราย แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอาจเผชิญกับความท้าทายจากการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ทั้ง AIS และ DTAC รายได้เติบโตในอัตราที่ลดลง และ EBITDA ลดลง เนื่องจากแพ็กเกจแบบใช้งานข้อมูลไม่จำกัด รายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ AIS ในปี 2561 เติบโตในอัตราที่ลดลงมาอยู่ที่ 1.3% จาก 3.3% ในปี 2560 ในขณะที่รายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ DTAC ปรับตัวลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับการเติบโตที่ 0.7% ในปี 2560 การเสนอโปรโมชั่นทางการตลาดที่รุนแรง ซึ่งรวมถึงการให้ส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์ ส่งผลให้ EBITDA ของ AIS ในไตรมาสที่ 4/2561 ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ EBITDA ของ DTAC ปรับตัวลดลง 23%