HoonSmart.com>> “อินทัช โฮลดิ้งส์”คาดกำไรปีนี้โตขึ้น ยืนแจกปันผลไม่น้อยกว่า 70% “ไทยคม”สัญญากำไรไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา รายได้ลงตามธุรกิจแข่งขันกันสูง ร่วมพันธมิตรต่างประเทศลงทุนสร้างดาวเทียมดวงใหม่ ด้าน ADVANC ขอโตเพียง 4-6% ทั้งกลุ่มยังมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารยันบริษัทไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ผู้ก่อตั้ง-ทายาทไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทแล้ว
นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารการลงทุนและการลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรสุทธิน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2561 ที่ทำกำไรสุทธิ 11,491 ล้านบาทตามการเติบโตของธุรกิจ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) และบริษัทยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 70% ของกำไรสุทธิ และจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้งตามเดิม ส่วนรายได้จะลดลงจากปีก่อน ตามบริษัท ไทยคม (THCOM)เนื่องจากการแข่งขันกันมาก มีผู้ให้บริการดาวเทียมมากกว่าความต้องการที่มีอยู่จริง แต่ก็ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของ THCOM ที่ยังเติบโตได้ในอนาคต จากการหาลูกค้าใหม่ ในประเทศในกลุ่ม AEC เนื่องจากดาวเทียมไทยคม 5,6 และ 8 มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมกลุ่มประเทศนี้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า กสท.โทรคมนาคม จะซื้อหุ้น THCOM ในช่วงที่ผ่านมาก็มีผู้สนใจติดต่อเข้ามา แต่ขณะนี้ยังไม่การเปลี่ยนแปลง
บริษัทฯมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละปีตั้งงบไว้ 200 ล้านบาท ร่วมลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ โดยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้เงินลงทุนแล้ว 525 ล้านบาท จำนวน 17 บริษัท ปัจจุบันมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 792 ล้านบาท เติบโตกว่า 50% ซึ่งในปีนี้ก็ยังมีแผนที่จะเข้าไปลงทุนเพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจโฮมช็อปปิ้งที่ลงทุน ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”นางสาวทมยันตีกล่าว
ส่วนกรณีที่มองว่าหุ้นกลุ่ม INTUCH เกี่ยวข้องกับการเมือง นางสาวทมยันตีกล่าวว่า หุ้นของบริษัทไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง เมื่อพิจารณาจากรายชื่อผู้ถือหุ้นไม่พบผู้ก่อตั้งบริษัทและทายาทเป็นผู้ถือหุ้น ส่วนราคาหุ้นจะปรับขึ้นหรือลงนั้น นักลงทุนควรพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น INTUCH มีส่วนลดจากราคาหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ประมาณ 20% เพราะบริษัทมีการรับรู้กำไรจาก ADVANC ประมาณ 95% ของกำไรทั้งหมด
“ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้เงินจำนวนมากเพื่อปรับภาพลักษณ์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองและผู้ก่อตั้ง เราก็ยืนยันมาตลอด และการที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาเมื่อวันศุกร์ที่ที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นหน้าที่ของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ที่จะเข้าไปตรวจสอบ” นางสาวทมยันตี กล่าว
ADANC ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 4-6%
นายศิรภพ ปภัทธนนันท์ นักลงทุนสัมพันธ์ ADVANC กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโตประมาณ 4-6% จากปีก่อน ในส่วนธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เติบโต 1-5% ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าใช้บริการ 41 ล้านเลขหมาย คาดหวังว่าจะมีการใช้ด้านดาต้าเพิ่มขึ้น ส่วน EBITDA margin จะใกล้เคียงปีก่อนอยู่ที่ 43.4%
นอกจากนี้บริษัทได้ตั้งเป้าจะมีลูกค้าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพิ่มเป็น 1 ล้านรายในปีนี้ จากปัจจุบันมีจำนวน 7.3 แสนราย มีโอกาสที่จะทำได้ตามเป้า เพราะความต้องการใช้ยังมีอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันประเทศไทย 22 ล้านครัวเรือน มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอยู่ที่ 9 ล้านครัวเรือน จึงยังมีโอกาสขยายได้อีกมาก ส่วนการตั้งงบลงทุนปีนี้ที่ 2.0-2.5 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ขยายโครงข่าย 4G เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น สัดส่วนรายได้ ประมาณ 96% มาจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนอีก 4% มาจากธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และอื่นๆ
ส่วนกรณีที่คลื่น 2G จะหยุดให้บริการในวันที่ 31 ต.ค. 2562 ขณะนี้มีลูกค้าประมาณ 2 ล้านราย สัดส่วนประมาณ 1-2% ของรายได้รวม เชื่อว่าเมื่อใกล้ถึงหยุดให้บริการ ลูกค้าขอย้ายมาใช้คลื่น 3G และ 4G จึงไม่มีผลกระทบต่อบริษัท และมีโอกาสที่จะใช้ดาต้าเพิ่มขึ้นด้วย
บริษัทได้ตั้งสำรองกรณีที่จะมีการประกาศใช้กฎหมายแรงงาน สำหรับลูกจ้างที่จะเกษียณอายุ ในหลัก 100 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการประกาศใช้เมื่อใด
“ราคาหุ้น ADVANC ผันผวนช่วงที่ผ่านมาไม่รู้ว่าเกิดจากปัจจัยใด และยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง ยืนยันว่าผู้ก่อตั้งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องการบริหารงานและไม่พบรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทถือหุ้นโดยกลุ่มสิงเทล”นายศิรภพกล่าว
THCOM ร่วมพันธมิตรตปท.ทำดาวเทียมดวงใหม่
นายปฐมภพ สุวรรณศิริ หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการค้าและกรรมการบริหาร บริษัท ไทยคม กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทพยายามรักษากำไรให้เท่ากับปีก่อนจำนวน 229 ล้านบาท บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับพันธมิตรในเอเชีย 3-4 ราย สร้างดาวเทียมดวงใหม่ คาดว่าปีนี้จะมีข้อสรุป ซึ่งใช้เงินลงทุนไม่มาก ช่วยลดความเสี่ยง ส่วนวงโคจรจะใช้ของไทยหรือต่างประเทศ กำลังพิจารณา 2 แนวทาง หากใช้วงโคจรของไทย ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPP) ส่วนอีกแนวทางใช้วงโคจรต่างประเทศ กำลังศึกษาผลดีและผลเสีย ส่วนดาวเทียมไทยคม 4, 5 และ 6 ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 2564 จะ หารือกับภาครัฐ ซึ่งบริษัทสนใจที่จะร่วมทุนในลักษณะ PPP ซึ่ง THCOM มีความพร้อมในทุกด้าน ส่วนดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 นั้น จะหมดอายุสัมปทาน 2575 ในปีนี้บริษัทได้ย้ายการให้บริการ ทรูวิชั่น จากดาวเทียมไทยคม 5 ไปยังไทยคม 8 และยังมองหาลูกค้าต่างประเทศ ใน AEC และอินเดีย
นอกจากนี้บริษัทยังรับเป็นที่ปรึกษาและการบริหารดาวเทียม TCSTAR-1 จะใช้เวลาสร้าง 3 ปี และบริหาร 15 ปี THCOM จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างในปีนี้ ที่เริ่มก่อสร้าง
นายอนุวัฒน์ สงวนทรัพยากร หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการเงิน THCOM คาดว่า ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดประมาณ 7,000 ล้านบาท และมีหนี้ทั้งหมด 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระภายในปีนี้จำนวน 2,700 ล้านบาท และมีแผนนำเงินไปลงทุนในธุรกิจใหม่ เกี่ยวกับเทคโนโลยี เช่นฟินเทค เอไอ เป็นต้น จึงไม่ได้จ่ายเงินปันผลในงวดปี 2561 ที่ผ่านมา