PTTEP ลุ้นโมซัมบิกขาย LNG อีก 2 ล้านตัน/ปี เดินหน้าแผนลงทุน ใช้เงินลดลง

HoonSmart.com >>ปตท.สผ.เผยโครงการโมซัมบิกเป็นรูปเป็นร่าง เดือนก.พ.เซ็นสัญญาซื้อขาย LPG อีก 2 ล้านตัน/ปี คาดครึ่งแรกปีนี้จะตัดสินใจลงทุน คาดจะให้ผลตอบแทนที่ดี ไม่มีแหล่งใหม่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาขายดีระยะยาว และใช้เงินลงทุนน้อยลง

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ.เปิดเผยว่า โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน จะสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ภายในครึ่งแรกของปี 2562 หลังจากมีสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แล้ว 7.5 ล้านตัน/ปีและในเดือนก.พ.นี้ก็จะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายอีก 2 ล้านตัน/ปี ทำให้มีปริมาณซื้อขาย LNG รวมเป็น 9.5 ล้านตัน/ปี นับเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ผู้ให้กู้จะปล่อยสินเชื่อและทำให้สามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายได้

ส่วนการลงทุนโครงการนี้ สามารถลดต้นทุนโครงการลงได้ 15-20% จากเงินลงทุนรวม 2.3-2.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เหลือเพียง 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หลังปรับแผนลงทุน ในส่วนนี้เป็นสัดส่วนที่ปตท.สผ.ลงทุนประมาณ 8.5% คิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ

“โครงการโมซัมบิกจะให้ผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากยังไม่มีการพัฒนา LNG จากแหล่งใหม่เข้ามา ตลาดคาดการณ์ว่าราคานับจากนี้จนถึงปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 7-10 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู และในช่วงปี 2568-2573 ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7-8 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู “นายพงศธรกล่าว

สำหรับโครงการโมซัมบิกฯเป็นหนึ่งในโครงการที่สำคัญตามยุทธศาสตร์ของ ปตท.สผ. ซึ่งให้ความสำคัญกับการลงทุนในพื้นที่ใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูง และมีต้นทุนต่ำ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเตรียมพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติ และก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว ซึ่งในระยะแรกประกอบด้วยโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว 2 สายการผลิต กำลังการผลิตรวม 12.88 ล้านตัน/ปี เพื่อรองรับการพัฒนาแหล่งโกลฟินโญ-อาตุม ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งหนึ่งในโครงการดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 2567

นอกจากนั้นตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทให้ความสำคัญกับการลงทุนในพื้นที่ใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูง โดยโฟกัสการลงทุนในไทย เมียนมา มาเลเซีย โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยเฉพาะโอมาน และ UAE ที่มีแผนจะเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมในเร็ว ๆ นี้ ทางบริษัทก็ให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลด้วย