FPI นิวไฮรอบ 5 เดือนรับข่าวซื้อหุ้นคืน ตั้งเป้าปีนี้รายได้โต 10%

“สมพล ธนาดำรงศักดิ์” เอ็มดี “ฟอร์จูน พาร์ท อันดัสตรี้” คาดโครงการซื้อหุ้นคืนสัดส่วน 2.64% ช่วยเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขาย หนุนอัตราส่วนผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นสูงขึ้น ฐานะการเงินแข็งแรงมีเงินสดพร้อมลงทุน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% ด้านราคาหุ้นทะยานนิวไฮรอบ 5 เดือน

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น FPI หลังจากการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำนิวไฮรอบ 5 เดือน จากราคาเปิดที่ 2.34 บาทต่อหุ้น ณ เวลา 16.00 น. อยู่ที่ 2.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท หรือ 7.08% มูลค่าการซื้อขาย 29.10 ล้านบาท โดยระหว่างวันขึ้นแตะสูงสุด 2.48 บาท ส่วนต่ำสุดอยู่ที่ 2.32 บาท

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อันดัสตรี้ (FPI) เปิดเผยว่า การเปิดโครงการรับซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เพื่อจะช่วยสภาพคล่องการซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้น และในอนาคตจะทำให้อัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้นหรือROE เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันอัตราเงินปันผลมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ เพราะจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล บริษัทฯเชื่อว่าการซื้อหุ้นคืนจะเป็นผลดี และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงิน 150 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่ซื้อคืน 40 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.64% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กำหนดเวลาซื้อคืนตั้งแต่ 22 ก.พ.-21 ส.ค.62 โดยราคาเฉลี่ยที่รับซื้ออยู่ที่ประมาณ 2.02 บาทต่อหุ้น

ส่วนวงเงินที่จะใช้ในการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 150ล้านบาทนั้น ปัจจุบันบริษัทได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว และการนำเงินมาใช้จะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัท ซึ่งการซื้อหุ้นคืน ถือว่าเป็นการบริหารสภาพคล่องทางการเงินเพื่อรับผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต

นายสมพล กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี2562 คาดว่า จะมีแนวโน้มธุรกิจที่ดีขึ้นและกลับมาฟื้นตัวได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 10% จากปี 61คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากมีงานรอรับรู้รายได้ในมือประมาณ 700 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯมีนโยบายบริหารควบคุมต้นทุนภายในองค์และหาวิธีจัดการกับสินค้ามาร์จิ้นต่ำ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี

ขณะที่แนวโน้มความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เดินหน้าขยายตลาดชิ้นส่วนรถยนต์ไป สหรัฐฯ – ยุโรปฯ- ออสเตรเลีย มากขึ้น เพราะประเทศเหล่านั้น มีความต้องการสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ดังนั้นจะทำให้บริษัทฯได้รับผลตอบแทนที่ดีและปีนี้จะมีปัจจัยหนุนจากโรงงานที่อินเดีย จะเริ่มรับรู้กำไรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2561 หลังจากที่ได้มีการเซ็นสัญญา เพื่อพ่นสีให้กับค่ายรถจักรยานยนต์ของญี่ปุ่น และไต้หวัน ซึ่งได้เข้าไปลงทุนในตลาดอินเดีย

อ่านประกอบ

FPI ทุ่ม 150 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืน 2.64%