ระวังพักฐาน แนะแบ่งขายทำกำไร

สัญญาณทางเทคนิคเตือนหุ้นมีโอกาสผันผวนมากขึ้น 1650 เป็นโซนขายทำกำไร ทรีนีตี้แนะกลุ่มแบงก์ โรงกลั่น เมย์แบงก์ฯมองหุ้นขนาดกลาง-เล็ก กลุ่ม ขนส่ง

บล.กสิกรไทยคาดตลาดวันนี้(4 ก.พ.)มีโอกาสผันผวนมากขึ้น หลังทดสอบด่าน 1650 ซึ่งให้เป็นโซนแบ่งขายทำกำไรทางเทคนิค มองแนวต้านแถว 1680 และ 1700 ซึ่งน่าจะผ่านด่านแรกได้ยาก ขณะที่หากย่อตัวลงมา น่าใช้เป็นจังหวะเข้าสะสม โดยแนวรับยกตัวขึ้นมาแถว 1625 และ 1600

เช่นเดียวกัน บล.เคทีบี (ประเทศไทย)คาดดัชนีเข้าใกล้ 1660-1670 ส่งผลให้มีความผันผวนมากขึ้น โอกาสสลับการพักตัวระหว่างต่อที่คาดไม่หลุด 1640 จุด กรอบเคลื่อนไหว 1644-1660 จุด

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นทำ High 1655 จุด ในวันศุกร์ที่ผ่านมาและทำปิดที่ 1651 จุด ส่งผลให้มี Momentum เดินหน้าต่อ เป้าหมายถัดไป 1660-1665 จุด อย่างไรก็ตาม เริ่มมีสัญญาณเตือนในเชิงลบ ไม่ว่าจะเข้าสู่ภาวะ Overbought และ Bearish Divergence ในภาพรายชั่วโมง

บล.ทรีนีตี้ประเมินตลาดเดือนกุมภาพันธ์ชะลอการขึ้นและแกว่งตัว Sideways หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นมากว่า 5.6% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีโดยที่ Valuation ยังไม่สนับสนุนมากนัก มองว่าจำเป็นต้องเน้นไปยังกลุ่มหุ้นที่ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งก็คือกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ปันผลสูงที่ราคายังคงขึ้นน้อยกว่าตลาด และมี Valuation ในระดับต่ำ ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL, KTB, TCAP) และกลุ่มโรงกลั่น (TOP, SPRC, PTTGC)

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรตามธีมระยะสั้น มองไปยังกลุ่มที่มีพัฒนาการเชิงบวกทางตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว มองตัวหุ้นที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ AOT, AAV, ERW, SPA, BEAUTY, DDD, TKN

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองดัชนีจะเริ่มแกว่งตัวออกข้าง แนะจับตาหุ้นขนาดกลาง-เล็กมีโอกาสปรับขึ้น แนะกลุ่ม ขนส่ง อย่าง WICE, III, PSL (รอซื้อช่วงปลายก.พ.)

” ในเดือนก.พ.คาดดัชนีแกว่งตัว 1,630-1,670จุด คงคำแนะนำถือหุ้น BEM, EGCO, VGI, CPALL, BJC และทยอยสะสม AOT พร้อมถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40%”บล.เมย์แบงก์ฯระบุ