โบรกฯ มองแนวโน้มหุ้นแกว่งตัว หลังเจรจาการค้าสหรัฐและจีนยังไม่ลงตัว ได้ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าหนุน ระวังแรงขายทำกำไร “บล.กสิกรไทย” ชู STEC BJC AOT
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้คาดว่า SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบรอปัจจัยใหม่จากผลประกอบการที่จะทยอยออกมาหนาแน่นขึ้นกลางเดือนนี้ และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยังไม่มีข้อสรุป โดยระหว่างนี้คณะทำงานจะหาข้อสรุปเพื่อให้ทันต่อการประชุมผู้นำทั้ง 2 ประเทศในเดือนนี้ ก่อนจะถึง 2 มี.ค. 19 ที่ครบกำหนดการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจาก 10% เป็น 25% อีกมูลค่า 2 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ทิศทางกระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาค ค่าเงินบาทที่แข็งที่สุดในภูมิภาคยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ
บล.กรุงศรี คาด SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,645 – 1,650 จุด ก่อนจะสลับอ่อนตัว จากภาวะ Risk on ในสินทรัพย์เสี่ยง หลัง FED ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลหากมีความจำเป็นซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน ประกอบกับความคาดหวังผลการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่เพื่อบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนเส้นตาย 1 มี.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าในเชิงบวกมากขึ้น
อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีดีดตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกมาระดับหนึงแล้วประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคเข้าใกล้ระดับ Overbought ซึ่งจะกดดันให้ภาวะตลาดผันผวน
บล.เอเชีย เวลท์ มองทิศทางตลาดเป็น sideway up เป้าดัชนีฯรอบสั้น ที่ 1,650 จุด จากตัวแปรที่หนุนตลาด ทั้งการเมืองไทยและนโยบาย Fed รวมทั้งการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
สำหรับคำแนะนำในเชิงกลยุทธ์ ยังแนะให้ทยอยซื้อ โดยให้ความสนใจกับ Fund Flow ที่กลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย หุ้นตัวใหญ่ แนะนำ BBL, PTTEP, IV L ขณะที่หุ้นที่มีปัจจัยบวกสนับสุนนอื่น ๆ คือ KTC, HMPRO และ UTP
บล.กสิกรไทย มอง SET Index มีโอกาสพักตัว หลังการประชุมข้อพิพาทการค้ายังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่เป็นโอกาสสะสมหุ้นที่ต่างชาติจะเข้าซื้อเนื่องจาก fund flow ที่จะไหลเข้า โดยหุ้นแนะนำ STEC BJC AOT
