สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ จัดงานโชว์นวัตกรรมการลงทุนสุดล้ำ ‘Investment Expo 2019’ วันที่ 26 ม.ค. นี้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตลาดหลักทรัพย์ ร่วมกับโบรกเกอร์ 27 ราย เปิดบูธนำเสนอเทคโนโลยีที่ผ่านการพัฒนามานานหลายปี สามารถตอบโจทย์การลงทุนในทุกผลิตภัณฑ์ยุคดิจิทัล ให้นักลงทุนและประชาชนรู้จัก เรียนรู้การใช้งาน และมีเวทีสัมมนา ทิศทางการพัฒนาตลาดทุน เป้าหมายเพื่อเพิ่มผลตอบแทนแก่นักลงทุน
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า สมาคมจะจัดงาน Investment Expo 2019 ในวันที่ 26 ม.ค.2562 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้ธีมงาน Digital Transformation by Securities Industry โดยมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และโบรกเกอร์ 27 แห่งมาร่วมออกบูธ วัตถุประสงค์หลักเพื่อเผยแพร่และนำเสนอการปรับเปลี่ยนของธุรกิจหลักทรัพย์ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อตอบโจทย์การลงทุนให้กับนักลงทุนในยุคดิจิทัล
“ยังมีคนในวงการนี้และนอกวงการอีกมาก ที่ไม่รู้ว่าบริษัทหลักทรัพย์มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและการให้บริการไปมาก แต่ละบริษัทมีการพัฒนาตามรูปแบบของตัวเองไม่ได้ซ้ำกัน มีความหลากหลาย แสดงให้เห็นวาบริษัทหลักทรัพย์ได้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง เพิ่มความสะดวกและมีประสิทธิภาพ สามารถแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในเชิงลึกได้ ”นางภัทธีรา กล่าว
นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า การนำ Digital Technology เข้ามาใช้ในธุรกิจหลักทรัพย์ ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการเปิดบัญชี การพิสูจน์ตัวตน การเข้าถึงข้อมูลของนักลงทุน การบริหารจัดการการลงทุน และยังเป็นการช่วยให้นักลงทุนติดตามปรับพอร์ตการลงทุน ตามสภาวะของตลาดในขณะนั้นได้ทันต่อสถานการณ์
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสัมมนาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาตลาดทุน ไม่ว่าจะเป็น Digital Exchange, Artificial Intelligence เป็นต้น สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรก หากจัดครั้งต่อไปน่าจะเป็นเรื่อง AI และปีต่อไปเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
นายธิติ ตันติกุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ลูกค้าซื้อขายผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกปี ประมาณ 10% ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 70% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดของรายย่อย บริษัทมีการทดลอง พัฒนาระบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ในส่วนของผู้แนะนำการลงทุนก็จะต้องพัฒนาตัวเองด้วย เพื่อเพิ่มมูลค่าและลูกค้าต้องการปรึกษาและขอคำแนะนำต่อไป
สำหรับบล.กสิกรไทยมีแอปพลิเคชั่นมาให้ลูกค้าทุกคน เริ่มตั้งแต่เปิดบัญชี มีข่าว มีข้อมูลพื้นฐาน ดูรายละเอียดของพอร์ตทั้งผลตอบแทนและเงินปันผล ในกรณีที่ไม่ค่อยมีเวลาในการติดตามความเคลื่อนไหวของราคา และข่าวสาร ก็มีแอปมาช่วย รวมถึงนักลงทุนที่ลงทุนในอนุพันธ์ สามารถเปรียบเทียบ DW ของบริษัทหลักทรัพย์แห่งอื่นด้วย
“ในอนาคตจะนำ AI มาใช้ ตอนนี้กำลังศึกษาว่าจะนำมาใช้อย่างไร คาดว่าจะใช้เวลาในการเรียนรู้ 1 ปี ” นายธิติกล่าว
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการกิจการค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า บล.บัวหลวงมีการนำนวัตกรรมการลงทุนมาพัฒนาและให้บริการแก่ลูกค้ามานาน 7 ปีแล้ว ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตการลงทุน โดยติดตามพฤติกรรมการลงทุน 3 เฟส คือก่อนที่จะเข้าไปซื้อขาย เทรดแล้วและหลังซื้อขาย โดยนักลงทุนนิยมการใช้เครื่องมือก่อนการซื้อขายมากที่สุด ปัจจุบันระบบสามารถตีกราฟและอ่านกราฟสำหรับหุ้นเกือบทุกตัว นอกจากนี้ยังให้ลูกค้าใช้เทคโนโลยีในการออมหุ้นด้วย
ขณะนี้มีลูกค้าซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ประมาณ 75%-80% ของมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อย
นายกัมพล จันทวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า อยากเปลี่ยนขบวนการลงทุนเป็นดิจิทัลทั้งหมด เริ่มตั้งแต่เปิดบัญชี การซื้อขาย และทบทวนพอร์ตเพื่อแก้ไข นักลงทุนสามารถใช้ช่องทางผ่าน SCB Easy App ทั้งการให้ข้อมูลและการลงทุนที่หลากหลาย จะทำให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันนี้มีลูกค้าซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ประมาณ 75% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดของรายย่อย
” ขบวนการเปิดบัญชี มีหลายช่องทาง เปิดบัญชีครั้งเดียว ซื้อขายผลิตภัณฑ์ได้ 5 บัญชีพร้อมกัน ส่วนเรื่องการให้คำแนะนำ ปรึกษา หากลงทุนมากถึง 10 ล้านบาท ก็จะมีคนดูแล ให้บริการไพรเวทแบงก์กิ้ง ตอนนี้ไม่ต้องเป็นลูกค้าใหญ่ขนาดนั้น เราใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยแนะนำการลงทุน แก้ไขพอร์ตให้”นายกัมพลกล่าว