TCAP กำไรปี 61 เพิ่ม 12% สินเชื่อโต-ค่าใช้จ่ายลด

“ทุนธนชาต” กำไรสุทธิปี 61 กว่า 7.84 พันล้านบาท เติบโต 11.97% สินเชื่อเพิ่มขึ้น 5.87% หนุนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัว 5.47% รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขยับขึ้นเล็กน้อย ด้านค่าใช้จ่ายลดลง

บริษัท ทุนธนชาต (TCAP) แจ้งผลการดำเนินงานประจำปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2561 มีกำไรสุทธิ 7,839.43 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.74 บาท เพิ่มขึ้น 838 ล้านบาท หรือ 11.97% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 7,001.17 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.01 บาท


บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 15,806 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,465 ล้านบาท หรือ 10.22% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานสุทธิทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 5.47% จากการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 0.04% จากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ ประกอบกับการบริหารคุณภาพหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้หนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญและขาดทุนจากการด้อยค่าปรับตัวลดลง

ในขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดําเนินงานปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการบริหารค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดีส่งผลให้กําไรก่อนภาษีของบริษัทและบริษัทย่อยเติบโตขึ้น 18.78% แตอย่างไรก็ตาม ภาษีเงินได้ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีของธนาคารธนชาต ได้หมดไปตั้งแต่เดือนพ.ค.2561

ในด้านสินทรัพย์กลุ่มธนชาตมีปริมาณเงินให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 5.87% จากสิ้นปีก่อน โดยเป็นการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อ SME ด้านเงินรับฝากปรับเพิ่มขึนจากเงินฝากออมทรัพย์ส่งผลให้สัดส่วนเงินรับฝากกระแสรายวันและเงินรับฝากออมทรัพย์ (CASA) ต่อเงินรับฝากเท่ากับ 48.50% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนที่ 42.9%

ด้านคุณภาพสินทรัพย์อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) อยู่ที่ 2.40% คงที่จากสิ้นปีก่อน สําหรับอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งหมดต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ที่ 120.49% และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารธนชาตเท่ากับ 19.45%