บล.ดีบีเอสฯ มองหุ้นตอนนี้ถูก แนะนำซื้อหุ้น 7 ตัว และกองทุน DIF คาดเป้าหมายดัชนีปีนี้ 1,780 จุด ส่วนบล.กสิกรไทย คาดไตรมาส 1 มีโอกาสถึง 1,650 จุด แนะนำรอซื้อ 1,400 จุด เป้าหมายสูงสุดปีนี้ 1,750 จุด
นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บล.ดีบีเอสฯ ให้เป้าหมายดัชนีหุ้นตลาดหลักทรัพย์ในปี 2562 ที่ 1,780 จุด พี/อี 15.5 เท่า ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ พี/อี 13.9 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมา เป็นจังหวะในการเลือกซื้อหุ้น ในไตรมาส 1 แนะนำหุ้น 7 บริษัท ได้แก่ BBL,BDMS, BEM,CPALL,AMATA, AOT,PTT และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF)
“ตอนนี้การทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ไม่ได้เป็นเสือนอนกินเหมือนที่ผ่านมาแล้ว เราเลือกธนาคารกรุงเทพ(BBL) เนื่องจากมีสินเชื่อต่างประเทศเติบโตมาก โดยเฉพาะจากจีน คิดเป็นสัดส่วน 17% ของสินเชื่อรวม หุ้นโรงพยบาลแนะนำ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) แม้ว่าจะมีการความคุมราคายา และเวชภัณฑ์ เชื่อว่ามีทางในการหารายได้เพิ่มขึ้น และหุ้นบริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) ที่มีโอกาสทางธุรกิจ จากสาขาที่มีอยู่ 1 หมื่นแห่ง ส่วน DIF เป็นกองทุนมั่นคงด้วยสิทธิการเช่าเฉลี่ย 20 ปี อัตราผลตอบแทนปันผล 6% ต่อปี”นางสาวอาภาภรณ์ กล่าว
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า บล.กสิกรไทย มองเป้าหมายดัชนีหุ้นตลาดหลักทรัพย์ สูงสุดของปี 2562 อยู่ที่ 1,750 จุด โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี ขณะที่ในไตรมาส 1 มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นไปถึง 1,650 จุด จากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติที่ขยับออกจากประเทศพัฒนาแล้วเข้ามาลงทุนในตลาดเกิดใหม่ และการเลือกตั้งในประเทศไทย
“ในช่วงต้นปีตลาดหุ้นไทยอาจจะปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจัยต่างประเทศ หลังจากคลายความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ และสงครามการค้าผ่อนคลายลง ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วมีประเด็นน่ากังวลมากขึ้น เช่น เศรษฐกิจยุโรปชะลอตัว ความไม่แน่นอนของกรณี Brexit และกำไรบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐลดลง จึงมีการปรับพอร์ตโยกเงินจากตลาดพัฒนาแล้วมาตลาดเกิดใหม่ แต่คาดว่าจะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นชั่วคราวเท่านั้น เพราะเป็นเพียงการปรับพอร์ตไม่มีเม็ดเงินใหม่มาลงทุน”นายกวี กล่าว
นอกจากนี้ นายกวี เชื่ออีกว่า “ปีนี้จะไม่มี New High เพราะไม่มีเงินใหม่ออกมาลงทุน และหลังจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติแล้ว ในไตรมาส 2-3 ตลาดจะกลับมากังวลเรื่องเดิมๆ ได้แก่ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว กำไรบริษัทจดทะเบียนสหรัฐไม่เติบโต รวมถึงความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยดอกเบี้ยของสหรัฐจะกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง”
“ตลาดหุ้นปีนี้จะผันผวนรุนแรง โดยมีโอกาสแกว่งได้ถึง 300 จุด หรือ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,400 – 1,750 จุด ซึ่งหากตลาดลงไปแถวๆ 1,400 จุด ถือเป็นจังหวะเข้าลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งปีที่แล้ว บล.กสิกรไทย ก็มองว่า ตลาดจะปรับลดลงแต่ยังไม่แนะนำให้ซื้อ แต่ปีนี้ถ้าลงให้ซื้อ เพราะการปรับลดลงจะเป็นผลจากปัจจัยภายนอก ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังแข็งแกร่ง”นายกวี กล่าว
ทั้งนี้ แนะนำลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนในประเทศ ได้แก่ ธนาคาร แนะนำ BBL และ TISCO กลุ่มค้าปลีกแนะนำหุ้น CPALL, CPN และ HMPRO
กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว ซึ่งปีนี้การท่องเที่ยวมีโอกาสกลับมาบวก หุ้นแนะนำ ได้แก่ CENTEL, ERW และ AOT
กลุ่มโรงไฟฟ้าที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้ประโยชน์จากโครงการ EEC ได้แก่ BGRIM นอกจากนี้ ยังรวมถึงกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้ประโยชน์จากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น CK และ STEC และกลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTT ที่จะได้ประโยชน์หากราคาน้ำมันไม่ผันผวนมาก
อ่านประกอบ
“กสิกรไทย” มองเป้าปีนี้ 1,750 จุด แนะรอจังหวะซื้อที่ 1,400 จุด