เมย์แบงก์แนะซื้อTPIPP เป้า8.50 บาท กำไรก้าวกระโดด

เมย์แบงก์ฯพบจุดแข็ง TPIPP ไม่มีหนี้ มีเงินสดกว่า 3 พันล้านบาท ผลงานไตรมาส 1 กำไรดีเกินคาด มีลุ้นปันผล แนวโน้มไตรมาส 2 เป็นต้นไป กำไรจะโตก้าวกระโดด

บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ ( TPIPP)ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท/หุ้น หลังจากกำไรสุทธิไตรมาส1/2561ทำสถิติสูงสุดใหม่ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 27% และระยะเดียวกันปีก่อน 8% เป็น 754 ล้านบาท มากกว่าที่เราคาดหมายไว้ 700 ล้านบาท แต่หากตัดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 120 ล้านบาท และ เงินรับค่าสินไหมทดแทน 45 ล้านบาท แล้วคิดเป็นหลังภาษี จะมีกำไรปกติเท่ากับ 623 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดหมายไว้เล็กน้อย 650 ล้านบาท

“TPIPP ไม่มีภาระหนี้เงินกู้ ในขณะที่มีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราว 3,300 ล้านบาท เราคาดจะมีการจ่ายเงินปันผลสำหรับกำไรไตรมาสแรกประมาณ 0.07-0.09 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อขาย P/E ปีนี้ต่ำ 13.1 เท่า และ จะลดลงเหลือ 9.9 เท่า ในปีหน้า และ มีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดี 4.5-5%”บล.เมย์แบงก์กิมเอ็งระบุ

แนวโน้มผลประกอบการตั้งแต่ ไตรมาส 2/2561 จะเติบโตแบบก้าวกระโดดมากกว่า1,000 ล้านบาท โรงไฟฟ้าสำคัญ คือ โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ 70 เมกะวัตต์(TG6) รวมกับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30 เมกะวัตต์ (TG4) ได้จำหน่ายไฟฟ้าให้ กฟผ. 90 เมกะวัตต์และ ได้ adder 3.50 บาท เพิ่มเติมจากค่าไฟฟ้าพื้นฐาน 7 ปี ได้เริ่มต้น COD เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา มีการเดินเครื่องดีขึ้นเป็นลำดับ คือ 3-4 วันแรก ขายไฟ 70% ของกำลังการผลิต หรือประมาณ 1.6 ล้านหน่วยต่อวัน สัปดาห์ที่สอง 80% หรือประมาณ 1.73 ล้านหน่วยต่อวัน และสองสัปดาห์ล่าสุดมากกว่า 90% หรือประมาณ 1.95-2 ล้านหน่วยต่อวัน คาดจะช่วยเพิ่มกำไรประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาทต่อปี