จับทาง CryptoMoney Games : หมียังครองตลาด

โดย..นพ. พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ

หลังจาก sideway มาพักนึง เมื่อวันจันทร์ก่อนราคาบิทคอยน์ก็เด้งขึ้นมายืนที่ระดับ $4,000 ได้ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นทุกวัน แต่เพียง 3 วันให้หลังก็ถูกถล่มขายจนลบไปกว่า 10% โดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดเงินดิจิทัลยังถูกควบคุมโดยรายใหญ่ หรือ พวก Whale ซึ่งสามารถปั่นราคาขึ้นหรือลงได้อย่างตามใจ และนี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ กลต. สหรัฐมีความกังวล และลังเลที่จะอนุมัติ Bitcoin ETF

ราคาบิทคอยน์ ขณะที่เขียนบทความ เคลื่อนไหวอยู่ประมาณ $3,600 และความไม่แน่นอนของราคาบิทคอยน์ บวกกับราคาที่ตกต่ำมานานกว่าปี ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบอย่างมาก เช่น Bitmain ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต Mining Hardwareรายใหญ่สุดเพิ่งประกาศ suspend operations ที่เมือง Rockdale, Texas ไว้ก่อน และยังมีแผนการปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงครั้งใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีข่าวแว่วออกมาว่า จะมีการเลิกจ้างงานอีกกว่า 50% ทีเดียว ซึ่งยังมีอีกหลาย ๆ บริษัทที่ทำธุรกิจด้านตลาดเงินดิจิทัล ก็ต้องเผชิญชะตากรรมคล้าย ๆ กัน

สำหรับในเมืองไทยเอง เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้มีการประกาศรายชื่อ ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 4 แห่ง โดยแบ่งเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาต เป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 3 ราย ได้แก่

บริษัท บิทคอยน์ จำกัด (BX) เว็บไซต์ bx.in.th บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (BITKUB) เว็บไซต์ bitkub.com และบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Satang Pro) เว็บไซต์ satang.pro และผู้ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นนายหน้าและผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี (Broker/Dealer) 1 ราย คือบริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด (Coins TH) เว็บไซต์ coins.co.th ส่วนรายอื่น ๆ ที่ยังไม่ผ่านการพิจารณา ก็ต้องหยุดประกอบธุรกิจไปโดยปริยาย ถึงแม้จะประกอบธุรกิจได้ แต่ในสภาวะตลาดที่ซบเซาแบบนี้ทุกบริษัทก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าครับ

ขณะเขียนบทความ ราคาบิทคอยน์ในเมืองไทยมีการซื้อขายกันอยู่แถว ๆ 118,000 บาท ส่วน Ethereum ราคาปรับตัวลงแรงกว่า 20% มาเคลื่อนไหวอยู่แถว ๆ 4,100 บาท มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ช่วงนี้ต้องถือเงินสดดูสถานการณ์ไปก่อนครับ

Disclaimer: เนื้อหาในบทความนี้เขียนจากความรู้และประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่คำแนะนำด้านการเงินหรือการลงทุน และผู้เขียนก็มิได้เป็นผู้แนะนำด้านการเงินการลงทุน ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจลงทุน