ติดดอย ไม่กล้า Cut Loss ฟินโนมีนาแนะปรับพอร์ตเพิ่ม “ภูมิคุ้มกัน”

บลน.ฟินโนมีนา เชียร์ปรับพอร์ตลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ตราสารหนี้ระยะยาว กองทุนอสังหาฯ รีท ทองคำ รับมือเศรษฐกิจโลกเข้าช่วงชะลอตัว พร้อมเปิดตัวบริการให้คำแนะนำจัดพอร์ตแบบใหม่ ใช้ชื่อ “ภูมิคุ้มกัน” หวังช่วยลดความเสียหายนักลงทุนติดดอย แต่ไม่กล้า Cut Loss

นายชยนนท์ รักกาญจนันท์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) ฟินโนมีนา กล่าวว่า ในปี 2562 เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ช่วงชะลอตัว (Late Cycle) และตลาดหุ้นเติบโตช้า จึงแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ตราสารหนี้ระยะยาว กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และทองคำ ขณะที่การลงทุนหุ้นแนะนำให้เน้นหุ้นปันผล

“ธนาคารโลกเตือนว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้ามี แนวโน้มเผชิญกับความมืดมน เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยง เพิ่มขึ้น เช่น ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน การปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน และปัญหา Brexit ในยุโรป” นายชยนนท์ กล่าว

บลน.ฟินโนมีนา จึงแนะนำออกผลิตภัณฑ์พอร์ตการลงทุนแนะนำในธีม SET Immunity และ World Immunity ที่เหมาะกับนักลงทุนที่อยู่ในภาวะติดดอยหุ้น และกองทุนต่างประเทศ (FIF) แต่ไม่กล้าขายเพื่อตัดขาดทุน (Cut Loss) เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตลงทุน โดยคัดเลือกกองทุนรวม 4 กองทุน ได้แก่

กองทุนกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้ (KFAFIX) บลจ.กรุงศรี มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ มีอันดับความน่าเช่ือถือเฉลี่ย A ข้ึนไป ทำให้มีความเสี่ยงจากการผิดชำระหนี้ต่ำมาก ขณะที่อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในกองทุนอยู่ที่ 2.67 ปี ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนทั้งจาก ดอกเบ้ียและกำไร เม่ือ Yield curve ปรับตัวลดลง

กองทุนตราสารหนี้เอเชียน (ASIA-B) บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้เอเชียเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ 4.87 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ย 5.23%

กองทุนยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ ชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (UGIS-N) บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้สหรัฐ และตราสารหน้ีโลกสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเป็นกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้ดีในช่วงปลายวัฏจักรดอกกเบี้ยขาขึ้น

กองทุนทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ (TMBGOLDS) บลจ.ทหารไทย มีนโยบายลงทุนในทองคำ ซึ่งทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ที่สามารถลดความ ผันผวน และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนชดเชยความเสี่ยง ในยามเศรษฐกิจมีความเสี่ยงถดถอยได้ โดย นายชยนนท์ ประเมินว่า เป้าหมายราคาทองคำปีนี้ไว้ที่ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ธีม SET Immunity เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีพอร์ตลงทุนในหุ้นไทย หรือกองทุนหุ้นไทยอยู่แล้ว โดย 3 กองทุนแนะนำได้แก่ KFAFIX, UGIS-N และ TMBGOLDS

ธีม World Immunity เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีพอร์ตลงทุน FIF อยู่แล้ว โดย 3 กองทุนแนะนำได้แก่ UGIS-N, ASIA-B และ TMBGOLDS

“ในภาวะนี้การลงทุนในสินทรัพย์ตราสารหนี้ระยะยาวทั้งในและต่างประเทศหรือทองคำ จะเป็นตัวช่วยให้มูลค่าพอร์ตเงินลงทุนโดยรวมมีภูมิคุ้มกัน (Immunity) คือลงไม่ลึกมากหากตลาดหุ้นยังปรับลงอย่างต่อเนื่อง โดยหากลงทุนในสินทรัพย์กลุ่มนี้เพิ่ม 1 เท่าตัวของสินทรัพย์ลงทุนที่มีอยู่จะช่วยให้ความเสี่ยงลดลง 50%” นายชยนนท์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายชยนนท์ กล่าวว่า สัดส่วนการลงทุนแต่ละกองทุนขึ้นอยู่กับพอร์ตลงทุนที่มีอยู่ในปัจจุบันของนักลงทุนแต่ละคน โดยบลน.ฟินโนมีนา จะเปิดให้จองบริการจัดพอร์ตลงทุนครั้งแรก (IPO) 14 – 25 ม.ค. นี้ มูลค่าโครงการรวม 1,000 ล้านบาท สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ www.finnomena.com/immunity