ดาวโจนส์ปิดบวก 90 จุด รับผลเจรจาการค้า เฟดย้ำทยอยขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 90 จุด รับผลเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน เฟดย้ำทยอยขึ้นดอกเบี้ย ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันดิบพุ่ง 5%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 9 มกราคม 2562 ที่ จุด 23,879.12 เพิ่มขึ้น 91.67 จุด หรือ 0.39 % เป็นการปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สี่ และส่งผลให้ตลาดหลุดพ้นจากภาวะขาลง ที่นำโดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน จากเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนมีแนวโน้มในทางบวกหลังจากที่ขยายเวลาการเจรจาออกไปเป็นอีกหนึ่งวันที่จากที่กำหนดไว้ 2 วัน รวมทั้งผลการประชุมธนาคารกลาง(เฟด)เดือนธันวาคมที่มีทิศทางเดียวกับความเห็นของเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยอ้างถึงอัตราเฟ้อที่ยังต่ำ

แถลงการณ์กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่าทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ในประเด็นสำคัญๆ พร้อมวางแนวทางสำหรับการแก้ไขในประเด็นที่แต่ละประเทศกังวลในระยะต่อไป ส่วนแถลงการณ์ของสหรัฐระบุว่า จีนให้คำมั่นที่จะซื้อสินค้าเกษตร พลังงาน สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าอื่นและบริการจากสหรัฐในปริมาณมาก นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นวันดียว 5% จากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์หรือ 5.2% ปิดที่ 52.36 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 2.72 ดอลลาร์หรือ 4.6%ปิดที่ 61.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์

การปรับขึ้นของตลาดถูกจำกัดในท้ายตลาดหลังจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลุกออกจากการประชุมกับหัวหน้าพรรคเดโมแครตระหว่างการหารือเกี่ยวกับการปิดทำการของหน่วยงานรัฐและได้ทวีตข้อความว่าเสียเวลาจริงๆ ขณะที่ก่อนหน้านั้นได้ออกมาชี้แจงประชาชนและยืนยันความจำเป็นที่จะต้องสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

ฟิทช์ เรตติ้งสถาบันจัดอันดับเตือนว่า สหรัฐอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจาก AAA หากการปิกทำการหน่วยงานรัฐบางส่วนมีผลต่อภาระหนี้

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,584.96 จุด เพิ่มขึ้น 10.55 จุด, +0.41%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,957.08 จุด เพิ่มขึ้น 60.08 จุด,+0.87%

หุ้นอเมซอนเพิ่มขึ้น 0.17% หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 1.7% หุ้นเฟซบุ๊คเพิ่มขึ้น 1.19%

หุ้นโบอิ้งเพิ่มขึ้น 0.97% หุ้นแคทเธอพิลลาร์เพิ่มขึ้น 0.39%

หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 1.34% หุ้นเอ็กซอนโมบิลเพิ่มขึ้น 0.53% หุ้นมาราธอนออยล์เพิ่มขึ้น 3.88% หุ้นเดวอนเอ็นเนอร์จี้เพิ่มขึ้น 1.10%

ตลาดยุโรปปิดบวก นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐกับจีนใช้เวลาถึง 3 วันจะสามารถตกลงกันได้ ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่มยานยนต์และเทคโนโลยี่ แม้การส่งออกเยอรมนีเดือนพฤศจิกายนลดลง 0.4% ซึ่งเป็นผลจากความขัดแย้งทางการค้าของสหรัฐกับจีนในช่วงก่อนหน้า

ในตลาดลอนดอนแผนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปที่เสนอโดยนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาสามัญชน ทำให้รัฐบาลต้องเสนอแผนสำรองภายใน 3 วัน หากแผนของนายกเมย์ไม่ผ่านรัฐสภาในสัปดาห์หน้า

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,906.63 จุด เพิ่มขึ้น 45.03 จุด, +0.66%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 347.70 จุด เพิ่มขึ้น 1.85 จุด, +0.53%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,813.58 จุด เพิ่มขึ้น 40.31 จุด,+0.84%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,893.32 จุด เพิ่มขึ้น 89.34 จุด, +0.83%