“แอพเพิลเวลธ์” คาดหุ้นม.ค.แกว่งกรอบ 1,500 – 1,600 จุด ชู 5 หุ้นเด่น

บล.แอพเพิลเวลธ์ ชี้ปัจจัยนอกประเทศยัง กดดันหุ้นไทย คาด เดือน ม.ค. แกว่งตัวในกรอบ 1,500 – 1,600 จุด รอลุ้นข้อพิพาทการค้าสหรัฐ – จีน คลี่คลายดัน SET ปี 62 พุ่งแตะ 1,740 จุด กลยุทธ์การลงทุน ม.ค.นี้ แนะนําซื้อ AMATA, BBL, CK, STEC และ WHA

นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือนมกราคม 2562 คาดดัชนีฯแกว่งตัวในกรอบ 1,500 – 1,600 จุด โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการเริ่มเจรจาการค้าสหรัฐ – จีน ในวันที่ 7 ม.ค.เพื่อหาข้อสรุปก่อนถึงกําหนด 90 วันของการชะลอเรียกเก็บภาษีนําสินค้าจีน ซึ่งยังประเมินยากว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนหรือไม่ แต่หากสหรัฐยังไม่ตัดสินใจขึ้นภาษีนําเข้าสินค้าจีนอีกมูลค่า 2.67แสนล้านดอลลาร์ ก็ไม่น่าส่งผลลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกเนื่องจากปีที่ผ่านมาปรับตัวลดลงกว่า -10% แล้ว

อภิชัย เรามานะชัย
ส่วนประเด็น Brexit ในกรณีแย่สุดเลือกออกแบบ Hard Brexit ก็อาจจะส่งให้ตลาดเงินตลาดทุนผันผวนในช่วงแรก เนื่องจากเศรษฐกิจอังกฤษอาจชะลอตัวในระยะเปลี่ยนผ่านเพื่อทําข้อตกลงการค้าใหม่ทั้งหมด โดยผลกระทบกับตลาดส่งออกไทยกับอังกฤษค่อนข้างน้อยคิดเป็นเพียง 1.6%ของมูลค่าส่งออกไทยทั้งหมด

สําหรับปัจจัยบวกที่จะหนุนการลงทุนอาจต้องรอประเมินแนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติในช่วงครึ่งปีหลัง ว่าจะเริ่มไหลกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่จากแนวโน้มดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่าลงและอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่อาจจะขึ้นเพียง 1 – 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ระดับ P/E ดัชนีต่างประเทศ เช่น Nasdaq, Stoxx 600 Europe, Nikkei เช่นเดียวกับ SET เริ่มลดลงเป็นปัจจัยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนรอบใหม่

ส่วนปัจจัยในประเทศคาดเศรษฐกิจไทยปี 2562 จะขยายตัวที่ระดับ 3.7 – 4.0% โดยส่งออกอาจชะลอตัวลงสู่ระดับ 3.8% แต่ยังได้แรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐและเอกชน ประกอบกับการเลือกตั้งปี 62 คาดจะได้รัฐบาลใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจะ สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดเงินตลาดทุน ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มกําไร บจ.ไทยปี 62 มีโอกาสเติบโตราว 4% และประเมินดัชนี SET ปี 62 จะปรับตัวในกรอบ 1,460 – 1,740 จุด

สำหรับปัจจัยเสี่ยงคือ หากข้อพิพาทการค้าสหรัฐ–จีนยืดเยื้อ แนะนําซื้อ AMATA, BBL, CK, STEC, WHA ได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐและเอกชนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อหลังมีรัฐบาลใหม่บริหารงานในช่วงครึ่งปีหลัง ปัจจัยสําคัญที่ยังต้องติดตามในปี 62 นี้ คือ การเจรจาการค้าสหรัฐ – จีน หลังจากสหรัฐยุติการขึ้นภาษีจีนชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน จนถึง 1 มี.ค.นี้ การลงมตของสภาอังกฤษว่าจะรับร่าง Brexit ของนายกฯ เมย์ หรือไม่ การพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายสหรัฐเพื่อแก้ไขปัญหา Shut Down

ส่วนปัจจัยในประเทศคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังเติบโตได้ที่ระดับ 3.7 – 4.0% คาดจะได้รัฐบาลใหม่บริหารงานในครึ่งปีหลัง กลยุทธ์การลงทุน ม.ค.นี้ แนะนําซื้อ AMATA, BBL, CK, STEC, WHA