“ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง” รับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก” มั่นใจโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 โรงในพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้รับผลกระทบ ยันจ่ายไฟฟ้าตามปกติ พร้อมเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียม COD อีก 2 โครงการกำลังการผลิตรวมราว 40 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้ตามแผน
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เปิดเผยถึงประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) ที่กำลังเคลื่อนตัวลงอ่าวไทย และจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ว่า บริษัทฯได้มีการประสานติดตามสถานการณ์ กับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะๆ เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมแผนรับมือ รวมทั้งได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ที่ดูแลส่วนงานโรงไฟฟ้าชีวมวลพื้นที่ภาคใต้อย่าใกล้ชิด
ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่าโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทฯ ที่มีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD)แล้ว 6 แห่ง กำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์ จำนวนนี้ มีเพียง 4 โรง ที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ คือ โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) จังหวัดนครศรีธรรมราช ,โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG ) จังหวัดนครศรีธรรมราช ,โรงไฟฟ้าชีวมวล พัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) จังหวัดพัทลุง, และโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) จังหวัดสตูล ส่วนโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) และโรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP)อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์และ สมุทรสาคร ตามลำดับ
“บริษัทฯ มั่นใจว่าโรงไฟฟ้าทั้ง 6 โรงจะไม่ได้รับผลกระทบและยังสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติ เนื่องจาก ทุกโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการก่อสร้าง ได้มีการพิจารณาเลือกพื้นที่พร้อมปรับสภาพพื้นที่ตั้ง ให้อยู่ในที่สูงกว่าระดับเส้นทางคมนาคมหลักไม่น้อยกว่า 50-100 เซนติเมตร ซึ่งจากปัญหาภัยพิบัติที่ผ่านมา ทุกโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ ปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วมมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก ปัญหาภัยธรรมชาติไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมให้การช่วยเหลือบริจาค อาหาร สิ่งของ ตลอดจนเครื่องใช้ที่จำเป็น ให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทฯดำเนินการมาทุกครั้งมีภัยพิบัติเกิดขึ้น ” นายเชิดศักดิ์ กล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟาที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 2 โครงการกำลังการผลิตรวมประมาณ 40 เมกะวัตต์ และใกล้แล้วเสร็จนั้น มั่นใจว่าจะไม่ได้ผลกระทบจากพายุโซนร้อน”ปาบึก” โดยจะสามารถดำเนินการ COD ในช่วงปี 2562 ได้ตามแผน ทั้งนี้ บริษัทฯยังพร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศ มี 2 โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ และใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งตามแผนจะมีการ COD ในช่วงปี 2562 กำลังการผลิตรวมประมาณ 40 เมกะวัตต์ ส่วนการลงทุนโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศนั้น ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาโดยจะเน้นเรื่องความคุ้มทุนเป็นสำคัญ