HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ลดลง 94 จุด แรงขายกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่สองติดต่อกัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 30 ธันวาคม 2568 รวมทั้ง ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลบเล็กน้อยในการซื้อขายที่ผันผวนการปรับขึ้นในหุ้นกลุ่มบริการสื่อสารถูกหักล้างด้วยการลดลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,367.06 จุด ลดลง 94.87 จุด, -0.20%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,896.24 จุด ลดลง 9.50 จุด, -0.14%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,419.08 จุด ลดลง 55.27 จุด, -0.24%
กลุ่มการเงินกดดันดัชนีดาวโจนส์จากการร่วงลงของหุ้น Goldman Sachs ที่ลดลง 0.87% หุ้น American Express ลดลง 0.5% และหุ้น Visa ปรับตัวลง 0.28%
หุ้น Citigroup ลดลง 0.8% หลังจากที่บริษัทประกาศว่าคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการขาย AO Citibank ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจในรัสเซียให้กับ Renaissance Capital ข้อตกลงนี้จะส่งผลให้บริษัทขาดทุนก่อนหักภาษีประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการแปลงสกุลเงิน
อย่างไรก็ตามดัชนี S&P 500 และดัชนี Dow Jones มีแนวโน้มปิดบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ซึ่งเป็นช่วงที่ดัชนีปรับตัวขึ้นติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 ตั้งแต่ต้นปี 2025 ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 17% ส่งผลให้ดัชนีเข้าใกล้ระดับการเพิ่มขึ้นสามปีที่ดีที่สุดเป็นอันดับเจ็ดในประวัติศาสตร์
หุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในดัชนี S&P 500 โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้น 1.1%ของ Meta Platforms ที่ประกาศจะเข้าซื้อกิจการ Manus สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ก่อตั้งในประเทศจีน เพื่อเร่งบูรณาการ AI ขั้นสูงเข้ากับแพลตฟอร์มต่างๆ ของบริษัท เช่น Facebook และ Instagram
บิล นอร์ธีย์ จาก U.S. Bank Asset Management กล่าวว่า การปรับขึ้นของหุ้น AI น่าจะต่อเนื่องไปในปีใหม่ โดยชี้ถึงปัจจัยพื้นฐานที่รองรับเทคโนโลยีและการพัฒนาศูนย์ข้อมูล
นักลงทุนบางส่วนยังคงคาดหวังว่าจะเกิด Santa Claus Rally การปรับขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปี และ 2 วันทำการแรกของเดือนมกราคมปีถัดไป
สำหรับข้อมูลสำคัญที่มีการเปิดเผย ได้แก่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนธันวาคม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเห็นที่แตกต่างกันในหมู่สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) เกี่ยวกับการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อต้นเดือนนี้ รายงานระบุว่าผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายลงอีกน่าจะเหมาะสม หากอัตราเงินเฟ้อลดลงตามที่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนให้น้ำหนัก 84% ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันในการประชุมวันที่ 27-28 มกราคม 2026
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเปิดทำการในวันพุธ ซึ่งตรงกับวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตามเวลาทำการปกติสำหรับการซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2025 อย่างไรก็ตาม ตลาดพันธบัตรจะปิดทำการเร็วกว่าปกติในเวลา 14.00 น. ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา
ตลาดยุโรปปิดบวกทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและสินค้าโภคภัณฑ์ แม้ว่าการเพิ่มขึ้นจะถูกจำกัดด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในช่วงปลายปี
ตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งในยุโรปจะปิดทำการในวันพุธ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ รวมถึงลอนดอนและปารีส จะปิดทำการเร็วขึ้นก่อนวันหยุดปีใหม่
สัปดาห์นี้วันการซื้อขายมีน้อยเพราะวันหยุดยาว ข่าวหุ้นรายตัวก็มีน้อย และปัจจัยกระตุ้น
ตลาดก็ไม่มาก ทำให้ผู้ลงทุนหันไปให้ความสนใจกับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนธันวาคมมากกว่าปกติ
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 592.78 จุด เพิ่มขึ้น 3.53 จุด, +0.60%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,940.71 จุด เพิ่มขึ้น 74.18 จุด, +0.75%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,168.15 จุด เพิ่มขึ้น 56.13 จุด, +0.69%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,490.41 จุด เพิ่มขึ้น 139.29 จุด, +0.57%
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 1.3% ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศเพิ่มขึ้น 1.4%
ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และแม้ว่าจะลดลงเล็กน้อยตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นรายปีได้มากที่สุดนับตั้งแต่ปี
1996 โดยได้รับแรงหนุนจากคำมั่นสัญญาที่จะเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศทั่วทั้งยุโรป
กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานนำดัชนี STOXX 600 โดยเพิ่มขึ้น 1.7% ขณะที่โลหะเงินและทองคำทรงตัวหลังจากปรับตัวลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
กลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 0.7% จากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 2% ในช่วงก่อนหน้า หลังจากรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนโจมตีที่พักของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ขณะที่นักลงทุนมองหาสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน
ดัชนีย่อยทั้งหมดของ STOXX 600 อยู่ในแดนบวก โดยกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 0.7%
หุ้น Airbus เพิ่มขึ้น 1.5% หลังจากแอร์ไชน่าลงนามข้อตกลงกับบริษัทเพื่อซื้อเครื่องบิน A320NEO จำนวน 60 ลำ มูลค่าประมาณ 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามราคาที่กำหนดไว้
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 57.95
ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 61.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
