“หุ้นโตเกียว-เอเชีย” ลบ “เงิน-ทองคำ” ทรงตัว

HoonSmart.com>>”ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ แรงขายทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นสองวันติดต่อกันในช่วงก่อนหน้า “ตลาดหุ้นเอเชีย” ส่วนใหญ่ลบเล็กน้อย เทรดวันสุดท้ายของปีสำหรับตลาดหลายแห่งในภูมิภาค ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้และไทย

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ นักลงทุนขายทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นสองวันติดต่อกันในช่วงก่อนหน้านี้

หุ้น Softbank Group Corp ลดลงกว่า 2% ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นบ้าง หลังจากที่บริษัทประกาศข้อตกลงซื้อกิจการ DigitalBridge บริษัทลงทุนด้านศูนย์ข้อมูล ในราคา 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อช่วงดึกวันจันทร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของบริษัท

มาซาโยชิ ซอน ซีอีโอและประธานของ SoftBank กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเสริมสร้างรากฐานสำหรับศูนย์ข้อมูล AI รุ่นใหม่และผลักดันวิสัยทัศน์ของบริษัทให้ก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงชั้นนำ หุ้น DigitalBridge พุ่งขึ้นประมาณ 10% หลังจากการประกาศ

ในตลาด Prime Market หุ้นที่นำการปรับตัวลง ได้แก่ กลุ่มโลหะที่ไม่มีเหล็กผสม กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ และกลุ่มสารสนเทศและการสื่อสาร

ในตลาดเงินตราต่างประเทศ ดอลลาร์สหรัฐทรงตัวก่อนการเผยแพร่รายงานการประชุมเดือนธันวาคมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเกือบ 10% ในรอบปี ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 8 ปี

เงินดอลลาร์ทรงตัวอยู่ที่ 156 เยน หลังจากอ่อนค่าลง 0.3% ในช่วงข้ามคืน นับเป็นการอ่อนค่าครั้งที่ 5 ในรอบ 6 วันทำการ ขณะนี้เงินเยนอยู่ห่างจากช่วง 158-160 เยน ซึ่งอาจเป็นช่วงที่ทางการญี่ปุ่นต้องเข้าแทรกแซง

ณ เวลา 10.05 น. ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 50,465.35 จุด ลดลง 61.57 จุด, -0.12%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับตัวลงเล็กน้อยหลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกันเจ็ดวัน ตามการลดลงของหุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่วันอังคารเป็นวันสุดท้ายการซื้อขายของปีสำหรับตลาดหลายแห่งในภูมิภาคนี้ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้และไทย

สภาพคล่องในตลาดส่วนใหญ่ค่อนข้างเบาบางในช่วงสัปดาห์ที่สั้นลงเนื่องจากวันหยุด ส่งผลให้ราคาผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลกยังเพิ่มขึ้น เมื่อจีนเริ่มการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงเป็นเวลา 10 ชั่วโมงรอบๆ ไต้หวันในวันอังคาร

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company และ Hon Hai ลดลงประมาณ 1% และ 0.65% ตามลำดับ

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อต้นเดือนนี้ ที่กำหนดเผยแพร่ในวันอังคาร ซึ่งอาจให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ที่บ่งชี้การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟดในเดือนมกราคม

ดัชนีหุ้นเอเชียแปซิฟิกไม่รวมญี่ปุ่นที่ครอบคลุมกว้างที่สุดของ MSCI ลดลง 0.1% แต่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น 26.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017

ดัชนี MSCI All Country World Index ปรับตัวขึ้น 21% ในปี 2025 และจะจบปีด้วยการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สาม ดัชนีหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นมากกว่า 25% โดยดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เป็นผู้นำตลาดด้วยการพุ่งขึ้นถึง 76%

ขณะเดียวกัน แนวโน้มค่าเงินที่แข็งแกร่งที่สุดบางส่วนของภูมิภาคเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงปลายปี โดยเงินวอนของเกาหลีใต้และเงินบาทของไทยนำในการพลิกกลับ

เงินวอนซึ่งกำลังเข้าใกล้ระดับที่เคยทะลุผ่านในช่วงวิกฤตการเงินโลก ได้ฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากทางการส่งสัญญาณสนับสนุนค่าเงิน ในทางตรงกันข้าม เงินบาท ซึ่งเป็นค่าเงินเอเชียที่ทำผลงานได้ดีเป็นอันดับสองในปีนี้ กำลังอ่อนค่าลงเนื่องจากความกังวลว่าธนาคารกลางอาจจะตอบโต้การแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งอาจคุกคามการส่งออกของประเทศ

ด้านราคาโลหะเงินและทองคำทรงตัวหลังจากปรับตัวลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้แรงซื้อของโลหะมีค่าลดลงไปบ้าง

ราคาน้ำมันทรงตัวจากการปรับขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนโจมตีที่พักของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แม้ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ มาสนับสนุนข้อกล่าวหา แต่ก็ถือเป็นอุปสรรคต่อความพยายามของสหรัฐฯ ในการเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพ

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,960.81 จุด ลดลง 4.46 จุด, -0.11%
ดัชนี HIS ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 25,704.4 จุด เพิ่มขึ้น 69.17 จุด, +0.27%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 4,208.18 จุด ลดลง 12.38 จุด, -0.29%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 28,668.27 จุด ลดลง 142.62 จุด, -0.5%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 0.08 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ซื้อขายที่ 61.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 0.1 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ซื้อขายที่ 61.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–