เปิดยอดหนี้สาธารณะคงค้างเดือนมีนาคมลดลงเหลือ 6.4 ล้านล้านบาท 41% ของจีดีพี เฉพาะหนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้น 9,945.30 ล้านบาท กู้เงินมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ชำระหนี้ที่กู้มาชดเชยกองทุนฟื้นฟูฯ
นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) รายงานยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มี.ค. 2561 มีจำนวน 6,454,168.89 ล้านบาท คิดเป็น 41.04% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ลดลงสุทธิ 9,522.95 ล้านบาท เป็นหนี้ในประเทศส่วนใหญ่ จำนวน 6,184,166.52 ล้านบาท หรือ 95.82% และหนี้ต่างประเทศ 270,002.37 ล้านบาท (ประมาณ 8,421.46 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือ 4.18% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาว 5,824,318.73 ล้านบาท หรือ 90.24%
หนี้สาธารณะในเดือนมี.ค. แบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 5,145,028.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 9,945.30 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 918,898.16 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 16,893.64 ล้านบาทหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 381,046.94 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 2,523.65 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 9,194.81 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 50.96 ล้านบาท
หนี้รัฐบาลที่เพิ่มขึ้น เป็นการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพื่อนำไปลงทุนในการพัฒนาประเทศ สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ จำนวน 70,508.21 ล้านบาท การไถ่ถอนพันธบัตร 10,477.34 ล้านบาท และการลดลงของตั๋วเงินคลัง 7,804 ล้านบาท เช่นการกู้เงินบาททดแทนการกู้เงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 2,059.14 ล้านบาท