หุ้นเอเชียเช้านี้ลดลง กังวลผลประกอบการหุ้นเทคโนโลยี

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเอเชียลดลง นำโดยตลาดหุ้นเกาหลีใต้ จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยี และการใช้จ่ายจำนวนมหาศาลด้าน AI ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงลดลง ได้กลุ่มการเงินเข้ามาช่วย 

ตลาดหุ้นโตเกียวปรับลงอย่างรวดเร็ว พลิกจากที่เพิ่มขขึ้นวันก่อนหน้า หลังจากได้รับสัญญาณเชิงลบจากวอลล์สตรีทเมื่อวันศุกร์ โดยการลดลงของหุ้นกลุ่มผู้ส่งออกและเทคโนโลยีได้รับการชดเชยบางส่วนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์และกลุ่มการเงิน

ในตลาด Prime Market หุ้นที่นำการลดลง ได้แก่กลุ่มโลหะที่ไม่มีเหล็กผสม และกลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า ส่วนหุ้นที่นำการปรับขึ้น คือ กลุ่มธนาคารและกลุ่มประกัน

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศตัวเลข Tankan ไตรมาสที่สี่ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น +15 ในไตรมาสที่สี่ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสี่ปี บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังรับมือกับผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ ได้ดีขึ้น เทียบกับการเพิ่มขึ้น +14 ในไตรมาสก่อนหน้า และสอดคล้องกับกับความคาดหวังของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์ ดัชนีภาคบริการนอกภาคการผลิตในไตรมาสที่สี่อยู่ที่ +34

ณ เวลา 9.22 น. ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 50,230.46 จุด ลดลง 606.09 จุด, -1.19%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับตัวลงทั้งภูมิภาค นำโดยตลาดหุ้นเกาหลีใต้ จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยี และการใช้จ่ายจำนวนมหาศาลในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงลดลง

ตลาดหุ้นเอเชียซึ่งเป็นตลาดที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในปีนี้ ดูเหมือนจะมีความเปราะบางเป็นพิเศษ เนื่องจากภูมิภาคนี้พึ่งพาการผลิตชิ้นส่วนสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก

นักลงทุนยังจับตาการตัดสินใจของธนาคารกลางและการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะข้อมูลของจีน ซึ่งจีนจะประกาศตัวเลขยอดขายปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนพฤศจิกายน

ในบรรดาธนาคารกลางต่างๆ ที่จะตัดสินใจในสัปดาห์นี้ คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.75% ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษอาจปรับลดลงในอัตราเดียวกัน เหลือ 3.75% ส่วนธนาคารกลางยุโรปคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม เช่นเดียวกับธนาคารกลางสวีเดน (Riksbank) และธนาคารกลางนอร์เวย์ (Norges Bank)

ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนี Kospi และดัชนี Kosdaq ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นขนาดเล็กลดลง หุ้นขนาดใหญ่ในดัชนีอย่าง SK Hynix ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ ลดลงกว่า 4% ส่วน Samsung Electronics ลดลง 3.3%

สำหรับความสนใจหุ้นรายตัวอยู่ที่ บริษัท CHina Vanke ซึ่งเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์แสดงให้เห็นว่า ไม่สามารถขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้เพื่อขยายเวลาการชำระหนี้ออกไปอีกหนึ่งปี จากที่กำหนดชำระในวันจันทร์ ทำให้ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้น และทำให้เกิดความกังวลอีกครั้งเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังประสบวิกฤต

คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัท Pepperstone Group Ltd ในเมลเบิร์นกล่าวว่า ตลาดกำลังเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการซื้อขายในปี 2025 ก่อนที่หลายบริษัทจะปิดงบการเงินและปิดปีไป ซึ่งบางบริษัทอาจปิดบัญชีไปแล้ว จึงคาดว่าสภาพคล่องจะลดลงในสัปดาห์นี้เมื่อเทียบกับปกติ แต่ยังคงเพียงพอสำหรับการซื้อขายในปริมาณที่เหมาะสมโดยไม่ทำให้ราคาผันผวนมากเกินไป แต่จะลดลงอย่างมากในสัปดาห์หน้า

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,885.73 จุด ลดลง 3.61 จุด, -0.09%
ดัชนี HIS ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 25,780.66 จุด ลดลง 196.13 จุด, -0.76%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 4,108.29 จุด ลดลง 58.87 จุด, -1.41%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 28,891.31 จุด ลดลง 306.71 จุด, -1.09%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.32 หรือ 0.56% ซื้อขายที่ 57.76ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 0.33 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 61.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล