บล.กสิกรฯให้แนวรับ 1,230 ลุ้นแนวต้าน1,305 สัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้แนวรับ  1,245 และ 1,230 จุด ขณะที่แนวต้าน 1,285 และ 1,305 จุด ตามลำดับ ติดตามการประชุมกนง.จะมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ การเมืองหลังยุบสภา สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เงินทุนต่างชาติ ส่วนค่าเงินบาทธนาคารกสิกรไทยมองกรอบ 31.40-32.00 บาท หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่งที่ 31.55 บาทต่อดอลลาร์ฯสัปดาห์ที่ผ่านมา 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (15-19 ธ.ค. 2568) ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,245 และ 1,230 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,285 และ 1,305 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (17 ธ.ค.) ประเด็นการเมืองในประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ยอดขายบ้านมือสอง ดัชนีราคาผู้บริโภค ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนพ.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ การประชุม ECB, BOE และ BOJ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนธ.ค. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. ของยูโรโซน ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร

สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นแกว่งตัวอิงขาลงจากความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ ต่างชาติกลับมาขายสุทธิหุ้นไทยอีกครั้งช่วงท้ายสัปดาห์

SET Index ปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมา นำโดยหุ้นกลุ่มแบงก์และหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่ง ดัชนีหุ้นฟื้นตัวกลับมาได้ในเวลาต่อมาก่อนวันหยุดของตลาดในประเทศ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นบริษัทผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นปรับตัวลงอีกครั้งสอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังทราบผลการประชุมเฟด แม้เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายตามคาด แต่ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบถัดไป นอกจากนี้ มาตรการส่งเสริมการออมระยะยาว (TISA) ของกระทรวงการคลังก็ยังไม่มีข้อสรุป ทำให้ดัชนีหุ้นกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงท้ายสัปดาห์ แม้จะมีแรงหนุนจากตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับขึ้นโดยภาพรวม แต่ข่าวการประกาศยุบสภารวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังไม่คลี่คลายก็ส่งผลให้นักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุน

ในวันศุกร์ที่ 12 ธ.ค. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,254.10 จุด ลดลง 1.54% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 32,233.71 ล้านบาท ลดลง 10.33% ส่วนดัชนี mai ลดลง 2.10% มาปิดที่ระดับ 211.65 จุด

แนวโน่มค่าเงินบาทสัปดาห์ระหว่างวันที่ 15-19 ธ.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.40-32.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ  จากสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่งที่ 31.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับทิศทางแข็งค่าของสกุลเงินเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขาย ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดต่อเนื่องในปี 2569 จากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาที่กรอบ 3.50-3.75% ในการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 9-10 ธ.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยบวกจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

ในวันศุกร์ที่ 12 ธ.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 31.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.04 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (4 ธ.ค.)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 8-12 ธ.ค. 2568 นั้นขายสุทธิหุ้นไทย 233 ล้านบาท และสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 9,876 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 346 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 10,222 ล้านบาท)