KTAM แนะกองทุนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้าย โอกาสเกษียณมั่นคง ลงทุนอย่างยั่งยืน

HoonSmart.com>> กองทุน “RMF-Thai ESG” ลดหย่อนภาษี กระจายลงทุนตามระดับความเสี่ยง “บลจ.กรุงไทย” (KTAM) คัดกองทุนเด่นโอกาสเกษียณมั่นคง ลงทุนอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้ลงทุนตรงสไตล์ ช่วงโค้งสุดท้ายปี 68 ชูกองทุน “สายสุขุม” เน้น RMF หุ้นไทยปันผลดี-หุ้น ESG ทั่วโลก-Thai ESG ตราสารภาครัฐ-ลงทุนแบบผสม ส่วนกองทุน “สายรุก” ชูธีมเมกะเทรนด์ AI-ทองคำ พร้อม Thai ESG หุ้นไทยยั่งยืน
 


 

ใกล้สิ้นปีแล้ว อย่าลืมวางแผนลงทุน “กองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษี” ในปี 2568 นี้ใช้สิทธิ์ลงทุนด้วยกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อไทยยั่งยืน (Thai ESG) พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดถึง 800,000 บาท

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย หรือ KTAM คัดกองทุน RMF-Thai ESG แนะนำกองทุน “สายสุขุม” และกองทุน “สายรุก” ตอบโจทย์นักลงทุนทั้งสองสไตล์

กองทุน “สายสุขุม” ธีมหุ้นปันผลไทย-หุ้น ESG โลก-กลุ่ม Thai ESG เน้นตราสารภาครัฐ-ลงทุนผสม

 

KT-HiDiV RMF
กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (ความเสี่ยงระดับ 6)

จุดเด่นกองทุน : หุ้นปันผลไทย
-เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีประวัติการจ่ายปันผลที่ดี สม่ำเสมอ และ/หรือมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต โดยมีอัตราส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยว่า 80% ของ NAV

มุมมอง KTAM มองแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนคาดว่าจะทยอยฟื้นตัว และมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยจากเงินปันผลที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ช่วยสนับสนุนให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนมีโอกาสปรับขึ้นได้ตามแนวโน้มตลาดหุ้น ขณะที่ “ความผันผวน” น้อยกว่าความผันผวนของตลาดหุ้นในภาพรวม

ผลงานกองทุนโดดเด่น การันตีด้วยรางวัลกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพยอดเยี่ยม ประเภทตราสารทุนจาก Morningstar Awards for Investing Excellence 2 ปีติดต่อกันในปี 2567 และ 2568

“KT-HiDiV RMF เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทยปันผลสูง มีความผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้นโดยรวม”

 

KT-GESG RMF
กองทุนเปิดเคแทม Global Sustainable Growth Equity เพื่อการเลี้ยงชีพ (ความเสี่ยงระดับ 6)

จุดเด่นกองทุน : หุ้น ESG โลก
– ลงทุน “หุ้นบริษัททั่วโลก” ที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว นำปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล หรือบรรษัทภิบาล (ESG) มาประกอบการวิเคราะห์ในการลงทุน

– ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Schroder International Selection Fund Global Sustainable Growth โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยว่า 80% ของ NAV

– กองทุนหลักบริหารจัดการแบบเชิงรุก (Active Investing) เน้นการลงทุนแบบกระจุกตัว (High Conviction) คัดสรรหุ้นคุณภาพระดับโลกเพียง 30–50 ตัว เน้นธุรกิจที่เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์การลงทุนแบบ Bottom-Up และสามารถลงทุนได้อย่างยืดหยุ่น โดยไม่มีข้อจำกัด (Unconstrained Portfolio)

ด้านนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : กองทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

“KT-GESG RMF เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นต่างประเทศที่เน้นธีม ESG เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว”
 

KTESGSI-ThaiESG
กองทุนเปิดกรุงไทย ตราสารภาครัฐ ESG (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (ความเสี่ยงระดับ 3)

จุดเด่นกองทุน : ตราสารภาครัฐ
– ลงทุน “พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรหรือหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้น” แต่ไม่รวมถึงหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งเป็นพันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน หรือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยว่า 80% ของ NAV

– มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

“KTESGSI-ThaiESG เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนธีม ESG ในไทย แต่รับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลาง เน้นความมั่นคง ต้องการกระแสเงินสดสม่ำเสมอจากการจ่ายเงินปันผล เหมาะกับผู้ที่ใกล้เกษียณหรือต้องการความมั่นคงมากกว่าผลตอบแทนสูง”

 

KTAG70/30-ThaiESG
กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade 70/30 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (ความเสี่ยงระดับ 5)

จุดเด่นกองทุน : หุ้นไทย+ตราสารหนี้กลุ่มยั่งยืน
– ลงทุนหุ้นไทย+ตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน โดยกองทุนจะลงทุนใน “หุ้นที่มี SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป” โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 70% และตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและ/หรือตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 30% ของ NAV

– มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

“KTAG70/30-ThaiESG เหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน แต่รับความเสี่ยงได้น้อยกว่าการลงทุนในหุ้น 100% โดยลดความเสี่ยงจากหุ้นลงเล็กน้อย มีสัดส่วนลงทุนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น”

 

กองทุน “สายรุก” ธีม AI-ทองคำ-หุ้นไทยยั่งยืน

KT-WTAI RMF
กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (ความเสี่ยงระดับ 6)

จุดเด่นกองทุน : หุ้น AI
– ลงทุน “หุ้นที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับประโยชน์จากวิวัฒนาการของปัญญาประดิษฐ์ (AI)”
– ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Allianz Global Artificial Intelligence โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
– ไม่ได้จำกัดการลงทุนเฉพาะในกลุ่ม Cloud, Data Center หรือ Semiconductor ที่เป็นกลุ่มหลักในธีม AI megatrend แต่ยังลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ได้รับอานิสงส์จากการนำเอา AI เข้ามาใช้ในธุรกิจ เช่น Healthcare, Financial Services

ด้านนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : กองทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

“เหมาะกับผู้ที่ต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวที่เล็งเห็นว่า AI megatrend จะเป็นโครงสร้างการเติบโตหลักของเศรษฐกิจโลกในหลายทศวรรษข้างหน้า”

 

KT-GOLD RMF
กองทุนเปิดเคแทม โกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (ความเสี่ยงระดับ 8)

จุดเด่นกองทุน : ลงทุนทองคำ
-เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust เพียงกองทุนเดียว

-กองทุนหลักมุ่งลงทุนใน “ทองคำแท่ง” เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำหลังหักค่าใช้จ่าย

“KTAM มองทองคำถูกมองว่าเป็นหนึ่งในโอกาสการลงทุนระยะยาวที่น่าสนใจในปัจจุบัน ภายใต้แรงขับเคลื่อนทั้งด้านมหภาคและปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดยธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์สำรอง (reserve) ,ความไม่แน่นอนทางนโยบายการค้าระหว่างประเทศ และแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เริ่มเข้าสู่วัฏจักรการปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อราคาทองคำ”

ทองคำจึงไม่เพียงทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงด้านค่าเงินและความผันผวนของตลาดเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างโอกาสให้กับพอร์ตการลงทุนเพื่อการเกษียณระยะยาวได้อย่างเหมาะสม

ด้านนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : กองทุนกองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 25% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ

“KT-GOLD RMF เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำและช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวม”
 

KTESG50-ThaiESG
กองทุนเปิดกรุงไทย ESG50 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (ความเสี่ยงระดับ 6)

จุดเด่นกองทุน : หุ้นไทย ESG 50 ตัว
– บริหารลงทุนแบบเชิงรุก เน้นลงทุน “หุ้นขนาดใหญ่ประมาณ 50 ตัวแรก” ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุดที่อยู่ในดัชนี SET ESG และอยู่ใน Universe ของ KTAM โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV

– มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

“KTESG50-ThaiESG เหมาะกับผู้ที่รับความผันผวนได้สูง สร้างโอกาสเติบโตผ่านหุ้นที่มีการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ESG”

 

KTAG-ThaiESG
กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) (ความเสี่ยงระดับ 6)

จุดเด่นกองทุน : หุ้นไทย ESG เรทติ้ง A ขึ้นไป
-บริหารการลงทุนแบบเชิงรุก เน้นลงทุน “หุ้นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ที่มี SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป” โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV เพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดในกรณีต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนในผลตอบแทนและความผันผวนของกองทุน

– มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

KTAM มองการลงทุนในกองทุนประเภท ThaiESG เป็นทางเลือกและการลงทุนในระยะยาวในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล อันจะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

“KTAG-ThaiESG เหมาะกับผู้ที่รับความผันผวนได้สูง ต้องการเติบโตสร้างโอกาสเติบโตผ่านหุ้นขนาดใหญ่-กลาง-เล็ก ที่มีการดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับ ESG”
 

ผู้ที่สนใจลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน KTAM Smart Trade คลิก https://onelink.to/9a76pb หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือ บลจ.กรุงไทย โทร. 02-686-6100 กด 9 www.ktam.co.th

โปรโมชันสำหรับผู้ลงทุนใน RMF-ThaiESG ที่ร่วมรายการ ทุกๆ 50,000 บาท (ยกเว้นกองทุน KTESGSI-ThaiESG) จะได้รับหน่วยลงทุน KTSTPLUS มูลค่า 100 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณัะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม