ดาวโจนส์ปิดลบ 179 จุด จับตาการตัดสินใจดอกเบี้ยของเฟด

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดลบ ดาวโจนส์ลดลง 179 จุด นักลงทุนจับตาการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มต้นประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปีแล้ว ด้านข้อมูลของรัฐบาลกลางแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด เลิกจ้างเพิ่มขึ้นเช่นกัน ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดทรงตัว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 9ธันวาคม 2568 ปิดที่ 47,560.29 จุด ลดลง 179.03 จุด หรือ -0.38% นักลงทุนจับตาไปที่การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากที่การประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปีได้เริ่มขึ้นแล้ว ขณะที่ข้อมูลของรัฐบาลกลางแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด และการเลิกจ้างก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,840.51 จุด ลดลง 6.00 จุด, -0.09%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,576.49 จุด เพิ่มขึ้น 30.58 จุด, +0.13%

ดัชนีดาวโจนส์ถูกฉุดจากราคาหุ้นของ JPMorgan ที่ร่วงลงกว่า 4% หลังจากผู้บริหารเตือนว่าต้นทุนของธนาคารจะเพิ่มขึ้นในปี 2026 ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดบัตรเครดิตและการใช้จ่ายด้าน AI ที่สูงขึ้น

นักลงทุนกำลังรอการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในวันพุธ ซึ่งจะเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของปี ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% จากที่ลดลงแล้วในการประชุมเมื่อเดือนกันยายนและตุลาคม เครื่องมือ FedWatch ของ CMEชี้ให้เห็นโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 87% เพิ่มขึ้นจากต่ำกว่า 67% เมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อน

อย่างไรก็ตามนักลงทุนรอว่าเฟดจะส่งสัญญานผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นหรือไม่ ในปี 2026

การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยช่วยดันให้ดัชนีหุ้นขนาดเล็ก Russell 2000 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในระหว่างวันซื้อขาย การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจช่วยกระตุ้นธุรกิจขนาดเล็กได้มากกว่า เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเหล่านี้เชื่อมโยงกับอัตราดอกเบี้ยตลาดมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่ และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอาจช่วยให้การเติบโตทางเศรษฐกิจขยายไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน ข้อมูลที่ล่าช้ามานานจากสำนักงานสถิติแรงงานแสดงให้เห็นว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม โดยตำแหน่งงานว่างอยู่ที่ 7.67 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.2 ล้านตำแหน่ง

สำหรับหุ้นรายตัว CVS เป็นหนึ่งในหุ้นที่ปรับขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 5% หลังจากที่เครือร้านขายยาแห่งนี้ประกาศคาดการณ์กำไรในปีหน้าที่ดีกว่าที่คาดไว้

หุ้น Alphabet Inc. เพิ่มขึ้น 1.07% แม้ Google ถูกสหภาพยุโรป สั่งเปิดการสอบสวนเรื่องการผูกขาดทางการค้า

หุ้น Home Depot ลดลง 1.33% หลังเผยประมาณการทางการเงินเบื้องต้นสำหรับปีงบประมาณ 2026 ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว ดัชนีอ้างอิงในภูมิภาคต่างๆ ค่อนข้างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนการประชุมนโยบายสองวันของธนาคารกลางสหรัฐฯ ขณะที่หุ้น EssilorLuxottica ร่วงลงหลังจากที่ Google เปิดเผยแผนการเปิดตัวแว่นตาที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 577.77 จุด ลดลง 0.59 จุด, -0.10%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,642.01 จุด ลดลง 3.08 จุด, -0.03%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,052.51 จุด ลดลง 55.92 จุด, -0.69%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,162.65 จุด เพิ่มขึ้น 116.64 จุด, +0.49%

ตลาดยังคงจับตาการประชุมนโยบายการเงินสองวันของเฟด ซึ่งเริ่มแล้วในวันอังคาร และคาดการณ์กันว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%ในวันพุธ แต่ความสนใจจะมุ่งเน้นไปที่แนวทางของผู้กำหนดนโยบายหลังจากนี้

EssilorLuxottica ผู้ผลิต Ray-Ban ร่วงลง 5.6% ซึ่งถือเป็นวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน หลังจากที่ Google ประกาศว่าจะเปิดตัวแว่นตาที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ในปี 2026 ร่วมกับ Warby Parker

ข่าวนี้ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มสินค้าหรูอื่นๆ รวมถึง Kering และ LVMH ซึ่งร่วงลง 2% และ 1.4% ตามลำดับ ส่งผลให้กลุ่มสินค้าหรูลดลง 1.8%

หุ้นกลุ่มประกันภัยเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 1.3% ขณะที่กลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 0.8%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพิ่มขึ้นหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สมาชิกรัฐสภาเยอรมนีเตรียมอนุมัติสัญญาจัดซื้อจัดจ้างมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5.2 หมื่น
ล้านยูโร (6.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในสัปดาห์หน้า หุ้น Rheinmetall, RENK และ Hensoldt เพิ่มขึ้นระหว่าง 3.6% ถึง 5.9% ส่งผลให้ดัชนีกลุ่มเพิ่มขึ้น 0.9%

หุ้น Thyssenkrupp ลดลง 6.4% หลังคาดการณ์ผลขาดทุนมากถึง 800 ล้านยูโร (931 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2026

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบมกราคม ลดลง 63 เซนต์ หรือ -1.07% ปิดที่ 58.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 55 เซนต์ หรือ -0.88% ปิดที่ 61.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–