PETPAL นับ 1 ไฟลิ่ง เตรียมไอพีโอ 52.76 ล้านหุ้น

HoonSmart.com >> PETPAL  ก.ล.ต. นับ 1 ไฟลิ่ง เตรียมเสนอขาย IPO ไม่เกิน 52.769 ล้านหุ้น  เพิ่มศักยภาพขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแบบเม็ด สำหรับแมวและสุนัข รับอุตสาหกรรมโตเฉลี่ยปีละ  5.52% ชูความเชี่ยวชาญวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยสูตรเฉพาะของบริษัท 

นลิน วิริยะเสถียร

 

นางสาวนลิน วิริยะเสถียร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เพ็ทพัล โปรดักส์ (PETPAL)  กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับ 1 แบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) แล้ว เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 52.769 ล้านหุ้น หรือ 35% ของหุ้นชำระแล้วทั้งหมดภายหลังไอพีโอ

วัตถุประสงค์การระดมทุน ขยายกำลังการผลิต ลงทุนขยายสายการผลิตสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง เช่น ฟรีซดราย (Freeze-dried) เพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งสูตรฟรีซดราย (Value-added kibbles) ชำระเงินกู้สถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ปัจจุบัน PETPAL มีทุนจดทะเบียน 75.38 ล้านบาท จำนวนหุ้น 150.769 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ทุนชำระแล้ว 49 ล้านบาท จำนวนหุ้น 98 ล้านหุ้น

นายวสกร โมรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท เพ็ทพัล โปรดักส์ (PETPAL)  กล่าวว่า  บริษัทฯ มีประสบการณ์ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแบบเม็ด กว่า 10 ปี เป็นผู้รับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแบบเม็ดสำหรับแมวและสุนัข (Dry Pet Food) ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (Original Design Manufacturer: ODM) พร้อมบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา คิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การผลิต จัดส่งสินค้า แก่ลูกค้าที่เป็นเจ้าของแบรนด์ระดับสากลและผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงของตนเอง

บริษัท ฯ มีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอาหารสัตว์เลี้ยงทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ด้วยสูตรเฉพาะของบริษัทฯ พร้อมทั้งคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย มีโรงงานอยู่ที่จังหวัดสระบุรี กำลังการผลิต 36,000 ตันต่อปี (ณ 30 ก.ย.2568) ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและผ่านการรับรองมาตรฐานระดับประเทศและสากล อาทิ มาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP), มาตรฐานระบบการจัดการและควบคุมความปลอดภัยของอาหาร (GHP/HACCP – Food Safe) มาตรฐาน HALAL ตามหลักศาสนาอิสลาม ฯลฯ

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ผลิตและจำหน่ายอาหารแมวและสุนัขชนิดเม็ดแบบแห้ง ภายใต้แบรนด์ของตนเอง (House Brand) เพื่อเพิ่มโอกาสขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์รองรับตลาดทุกระดับ ได้แก่ (1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม (Premium Grade) ผลิตจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่ อาหารแมวและสุนัขแบรนด์ Boom Gold และอาหารแมวแบรนด์ Animeals (2) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับมาตรฐาน (Standard Grade) เน้นคุณภาพในราคาย่อมเยา ได้แก่ อาหารแมวและสุนัขแบรนด์ Boom อาหารสุนัขแบรนด์ MYPETS และ (3) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับประหยัด (Economy Grade) ที่คงคุณค่าทางโภชนาการขั้นพื้นฐานแก่สัตว์เลี้ยง ได้แก่ อาหารแมวและสุนัขแบรนด์ Smillie อาหารแมวแบรนด์ Cat Likes และอาหารสุนัขแบรนด์ Dog Likes

บริษัทฯ มีฐานลูกค้ากว่า 20 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย อาทิ บรูไน, อินเดีย, เกาหลีใต้, เมียนมา, อินโดนีเซีย ฯลฯ โดยมีฟิลิปปินส์และมาเลเซียเป็นตลาดส่งออกหลัก

จุดแข็งบริษัท ฯ ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและกระบวนการผลิตที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากล เน้นคุณภาพ ความปลอดภัย , บริการครบวงจร โดยทีมงานมืออาชีพ , กลุ่มลูกค้ากระจายตัวหลายประเทศและทำการตลาดแบบ B2B และ B2C ทั้งในและต่างประเทศ จึงช่วยกระจายความเสี่ยงของฐานลูกค้า

อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเติบโตช่วยสนับสนุนการขยายตัวของบริษัทฯ และ (5) มีทีมผู้บริหารรุ่นใหมที่มีวิสัยทัศน์ โดยผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทฯ มีเป้าหมายยกระดับคุณภาพ สารอาหาร โภชนาการ และคุณประโยชน์ของอาหารสัตว์เลี้ยงให้เทียบเท่าอาหารของมนุษย์

ภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลก นับจากปี 2567-2572 มีแนวโน้มเติบโต โดยข้อมูลจาก Fortune Business Insights คาดว่ามูลค่าตลาดรวมจะเพิ่มขึ้นจาก 126,660 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 193,650 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.52 ต่อปี (CAGR) เนื่องจากการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นสมาชิกภายในครอบครัว (Pet Humanization หรือ Pet Parents) และการเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนและคู่รักรุ่นมิลเลนเนียลที่นิยมเลี้ยงสัตว์ก่อนมีลูกเพื่อเตรียมความพร้อม จึงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและพร้อมใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยง

วสกร โมรากุล

นายวัฒนา โมรากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี การเงิน  PETPAL กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งขยายตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงชนิดแห้งแบบเม็ดสำหรับแมวและสุนัขแก่ลูกค้าต่างประเทศและในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง  ปี 2567 ขยายกำลังการผลิตจาก 26,400 ตันต่อปี เป็น 36,000 ตันต่อปี

ปี 2565-2567 รายได้จากการขายของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 601.46 ล้านบาท เป็น 682.72 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 6.54% ต่อปี และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 40.47 ล้านบาท เป็น 65.05 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปี 26.89%

ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้จากการขาย 572.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.87% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 81.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.40% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยมาจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากการขายสินค้า House Brand ที่เพิ่มขึ้นเป็น 133.18 ล้านบาท เติบโต 64.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน